Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

เดือนเมษายนโรงแรมปิดกิจการ 13%

สมาคมโรงแรมไทย ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (Hotel business operator Sentiment Index: HSI) เดือน เม.ย. 64 ผ่านการสำรวจโรงแรมจำวน 158 แห่งพบว่า

ผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบมากขึ้น จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกเดือน เม.ย. โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 18% น้อยกว่าที่คาด เนื่องจากโรงแรมจำนวนมากถูกยกเลิกการจองห้องพักมากกว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ 80% คาดว่ารายได้จะถูกกระทบมากกว่าการแพร่ระบาดระลอก 2 โดยแต่ละภาคมีเปอร์เซ็นต์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ภาคใต้ มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 23.2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่า สูงกว่าภาคอื่นๆ
รองลองมาคือ ภาคกลาง 18.7 เปอร์เซ็นต์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10.9 เปอร์เซ็นต์ และสุดท้าย ภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ภาคเหนือ มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 4.1เปอร์เซ็นต์

ดังนั้นจึงทำให้การสำรวจครั้งนี้เมื่อคิดเป็นค่าเฉลี่ยออกมาจะพบว่า อัตราการเข้าพักของโรงแรมในช่วงเดือน เมษายน จะอยู่ที่ 18เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราการเข้าพักที่น้อยกว่าคาด เนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกเดือนเมษายน เพราะจากการสำรวจมีตัวเลขของโรงแรมที่ถูกยกเลิกสูงถึง 51 เปอร์เซ็นต์
เมื่ออัตราการเข้าพักอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ไม่สูงมากนักเราลองย้อนกลับมาดูสถานะกิจการในปัจจุบันจากการสำรวจในครั้งนี้พบว่า สถานะกิจการที่เปิดปกติอยู่ที่ 46 เปอร์เซ็นต์ และใน46เปอร์เซ็นต์นี้มีค่านิวส์ก็ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากร ผู้ประกอบการโรงแรมทุกท่าน และขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็ว และเราสามารถกลับมาเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง และที่น่าสนใจเมื่อมองตัวเลขของการสำรวจในสถานะกิจการของโรงแรมที่เปิดอยู่นั้น ส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรกลับคืนมาได้ เพราะ39เปอร์เซ็นต์ ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่รายได้ยังไม่สามารถกลับมาได้ถึง 10เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงปกติก่อนเกิด covid 19

ขณะที่ตัวเลขอีกกลุ่มก็ถือว่าเยอะพอสมควรสำหรับโรงแรมที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวมีถึง 13 เปอร์เซ็นต์ โดยโรงแรมส่วนมากที่อยู่ในกลุ่มของการปิดการส่วนมากจะอยู่ที่ภาคใต้ เพราะแต่เดิมนั้นจะให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก และที่สำคัญประมาณ 80เปอร์เซ็นต์มองว่า การแพร่ระบาดของเดือนเมษายน 2564 จะส่งผลกระทบต่อรายได้มากกว่าการแพร่ระบาดในระลอก 2 โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่า เรายังไม่สามารถตอบได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะกลับมาสู่สภาวะปกติ หรือ การท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่จะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันไหน แต่วันนี้แน่นอนว่าทางผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวและสู้กับสถานการณ์เพื่อให้การปรับตัวและการพยุงธุรกิจสามารถเดินหน้าไปต่อได้ แต่ก็มีมาตรการจากการสำรวจในครั้งที่ผู้ประกอบการยังแอบหวังว่ามีมาตรการต่างๆเข้ามาช่วย ทั้ง การสนับสนุนค่าจ้างพนักงานเดิม การพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย และ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมไปถึงประเด็นที่ยังคงพูดคุยกันในสังคม คือความชัดเจนและความรวดเร็วของการกระจายวัคซีน ที่ผู้ประกอบการแอบหวังว่า มาตรการต่างๆเหล่านี้จะเข้ามาสนับสนุนและช่วยให้ธุรกิจของภาคโรงแรมยังคงเดินหน้าไปต่อได้

ที่มา ธนาคารแห่งประเทศไทย

Exit mobile version