Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ย้ำ จะบริหารจัดการเงินอย่างรอบคอบ

ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ย้ำ จะบริหารจัดการเงินอย่างรอบคอบ

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวเพิ่มเติม หลังพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้แล้ว โดยมีกรอบวงเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก กู้เงิน COVID-19 ฉบับที่ 2 เป็นกรอบวงเงินที่เหมาะสม ที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังเพื่อดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยเหลือเยียวยา ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของของ COVID-19 ระลอกใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
ว่า “ที่ผ่านมาสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้บริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบและระมัดระวังตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน และภายใต้กรอบวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่ทางการคลัง (Fiscal Space) คงเหลือและเพียงพอเพื่อดำเนินนโยบายและแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ สำหรับการกู้เงิน ของรัฐบาลในวงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน COVID-19 ฉบับที่ 2 นั้น สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจะบริหารจัดการอย่างรอบคอบโดยวางแผนและทยอยกู้เงินตามความจำเป็นและตามแผนการเบิกจ่ายจริงและไม่ได้กู้เงินทั้งจำนวน 500,000 ล้านบาท ในคราวเดียว โดยจะใช้เครื่องมือทางการเงินที่ผสมผสานทั้งระยะสั้น และระยะยาวเพื่อให้ได้วงเงินกู้ที่ครบถ้วนภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดการแย่งสภาพคล่องจากภาคเอกชน และส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ

แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงิน COVID-19 ฉบับที่ 1 เกือบครบ 1 ล้านล้านบาท และจะต้องกู้เพิ่มอีกประมาณ 500,000 ล้านบาท โดยจะมีการกู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้และในปีหน้าเพื่อใช้ดำเนินนโยบายการคลังเพิ่มเติมในการดูแลทุกภาคส่วนรวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 ว่าจะอยู่ที่ 58.56% และจะยังคงดำเนินการบริหารหนี้สาธารณะด้วยความรอบคอบและระมัดระวังเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังและการบริหารหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับที่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลยังมีมุมมองที่ดีต่อภาคการคลังที่แข็งแกร่งของประเทศไทย ซึ่งสะท้อน ความเชื่อมั่นของการดำเนินนโนบายทางการคลังของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา”

Exit mobile version