จากสถานการณ์ การแพร่ระบาด COVID-19 ไม่ได้ส่งกระทบต่อคนไทยเท่านั้น แต่คนทั่วโลก ต่างก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน โดยเฉพาะมาตรการ Work From Home ที่หลายประเทศกำหนดออกมา เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 วันนี้ มีค่า นิวส์ ได้พบบทความหนึ่ง ที่นำเสนอมุมมองของคนทำงานในประเทศแคนาดา เกี่ยวกับมาตรการ Work From Home จึงเรียบเรียงมาฝากทุกคน
หลังจากปีที่ผ่านมา ชาวแคนาดาจำนวนมากต้อง Work From Home เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งก็รวมถึงคนต่างเชื้อชาติด้วย ทำให้ที่พบว่าการที่ตัวเองอยู่ห่างจากวัฒนธรรมในสำนักงานช่วยในเรื่องสุขภาพจิตเป็นอย่างดี
ซึ่งสถาบัน Environics ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติในแคนาดา ในปี 2019 เพื่อวิจัยเชิงสำรวจ พบว่า สถานที่ทำงานเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในการเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ ประมาณ 40% ของคนที่มีประสบการณ์โดนเหยียดเชื้อชาติ และแม้ว่าการวิจัยเพิ่มเติมจะพบว่าชาวแคนาดาส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่คนงานที่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ไม่ต้องการกลับไปทำงานในสำนักงาน หลังเกิดโรคระบาด
อย่าง Kiran Jaswal (นามแฝง) ผู้หญิงผิวสีต่างเชื้อชาติ ที่ทำงานอยู่ในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรขนาดใหญ่ของเมืองคาลการี รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยเธอรู้สึกว่า การทำงานที่สำนักงาน ทำให้เธอถูกเพื่อนร่วมงานคุกคาม บูลลี่ เมินเฉยใส่ทุกๆวัน จนเธอเคยถึงขั้นคิดลาออก
แต่เมื่อมีมาตรการ Work From Home หรือ การทำงานที่บ้านออกมา กลับทำให้เธอรู้สึกดีมากกว่า เพราะเธอได้หลีกหนีจากความรู้สึกแย่ๆ จากการถูกเพื่อนร่วมงานคุกคาม บูลลี่ รู้สึกปลอดภัย สุขภาพจิตดีขึ้น
เช่นเดียวกับ Emily Bousan (นามแฝง) นักข่าวสาวต่างเชื้อชาติเพียงคนเดียวในทีม ซึ่งทำงานอยู่ในสำนักข่าวที่เมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา มองว่า การทำงานที่บ้าน เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยก็จริง แต่เธอก็พบว่าตัวเองเหนื่อยล้าจากการสลับภาษา โดยต้องพูดในวิธีที่ต่างกันไปจากที่เธอพูดกับเพื่อนและครอบครัว
เธอเสริมว่า สำนักงานมักจะกีดกันความสามารถของเธอ ไม่ให้เปิดกว้างการแสดงความคิดเห็น ในประเด็นความหลากหลายทางกายภาพ เธอยกตัวอย่างว่า ปีที่แล้ว มีข่าวการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ และการประท้วงเรื่อง Black Lives Matter ทำให้ธุรกิจจำนวนมาก ถูกบังคับให้ต้องฟื้นฟูตัวเอง และทำให้ขาดความหลากหลายในที่ทำงาน
แต่เมื่อ Bousan เข้าร่วมคณะกรรมการความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมตัวในที่ทำงานของเธอ เธอสังเกตเห็นวิธีการที่เพื่อนร่วมงานของเธอพูดถึงหัวข้อนั้น เช่น พวกเขาพูดว่า “เราต้องการความหลากหลายของสีผิวมากกว่านี้” หรือ “เราต้องการความหลากหลายทางเพศ” เธอคิดว่า “มันไม่เหมาะสม และพวกเขาดูไม่มีความจริงใจอย่างมาก”
ด้าน Celine Williams-Tracey สาวนักจิตบำบัดและนักสังคมสงเคราะห์ กล่าวว่า ประชากรส่วนน้อยจำนวนมากที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบมืออาชีพ มักต้อง “สลับภาษา” เมื่ออยู่ในที่ทำงาน ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ที่ปรากฏออกมา ทั้งสำเนียง และกิริยาท่าทาง (มักเกิดขึ้นกับบุคคลต่างเชื้อชาติ) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพราะการสลับภาษาเป็นรูปแบบของการเอาตัวรอด แต่การทำแบบนี้ มันทำให้เกิดความวิตกกังวล ซึมเศร้า และความเหนื่อยหน่ายมากขึ้นได้เช่นกัน
Tracey ยังวิเคราะห์ว่า สำหรับ Jaswal และ Bousan การสลับภาษา เป็นสิ่งที่พวกเธอเคยทำทุกวันในที่ทำงานโดยไม่รู้ตัว อย่างการใช้เสียงที่ต่างออกไปในการตอบเรื่องงาน หรือ การกัดลิ้นเมื่อเพื่อนร่วมงานแสดงความคิดเห็นที่ไม่ละเอียดอ่อน
แม้จะมีการ Work From Home แต่พวกเธอทั้งสองคน ก็ยังต้องเจอกับการสลับภาษา ผ่านการประชุม Zoom โดย Tracey บอกว่า “บ้านควรเป็นที่หลบภัย แต่ก็ต้องประนีประนอมกับการตกแต่งหรือการนำเสนอบ้านของคุณสำหรับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ของคุณ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการหมดไฟ
สำหรับคนงานต่างเชื้อชาติ ซึ่งต้องกลับไปที่สำนักงานและรู้สึกกังวลใจ Tracey แนะนำให้หาที่ปรึกษาที่สามารถช่วยนำทางคุณได้ นอกจากนี้ เธอแนะนำให้คิดแผนสำหรับการปฏิบัติการไว้ด้วย โดยการถามตัวเองว่าที่ทำงานของคุณเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับคุณหรือไม่? ทางเลือกของคุณคืออะไร? ที่ไหนที่คุณจะเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด?”
และหากต้องเปลี่ยนงาน การมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการจ้างงานเพื่อช่วยคุณแก้ไข resume อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการได้ตำแหน่งงานในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการใช้แอปพลิเคชัน เพื่อการทำสมาธิ หรือ การมีพื้นที่ปลอดภัยทางกายภาพในสำนักงาน ซึ่งคุณสามารถแยกตัวเองออกจากเพื่อนร่วมงานสามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้
ขณะที่ Carl James อาจารย์มหาวิยาลัยนิวยอร์ก ที่ศึกษาเกี่ยวกับชุมชน, การพลัดถิ่น และความเท่าเทียมในการศึกษาและการจ้างงาน ระบุว่า เมื่อเราถกเถียงกันเรื่องระบบการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งมีอยู่ในที่ทำงาน “การเหยียดเชื้อชาติไม่ได้ลดลง มันกำลังถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่แตกต่างออกไป”
เขาเสริมว่า คนต่างเชื้อชาติบางคน เคยพูดถึงการจัดการที่น่าสงสัย เกี่ยวกับพวกเขาที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งจากที่บ้าน และ COVID-19 ทำให้เรามีโอกาสคิดทบทวนว่า ‘ความปกติ’ หมายถึงอะไร? และการสร้างบรรทัดฐานของสภาพแวดล้อมสำหรับความหลากหลายของผู้คนที่ทำงานให้กับเราหมายความว่าอย่างไร”
ที่มา : https://globalnews.ca/news/7927877/working-from-home-racialized/