Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

แผนงานเปิดประเทศ 120 วัน

แผนงานเปิดประเทศ 120 วัน

หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้า Road map เตรียมเปิดประเทศใน 120 วัน หวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจสู้โควิด-19 รัฐบาลและทุกภาคส่วนก็ได้วางแผนงาน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ และร่วมเดินไปด้วยกัน มีค่า นิวส์ จึงขอสรุปรายละเอียดมาฝากทุกคน ดังนี้

1.เดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนโดยเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดส ประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน

2.เดินหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆ ปัจจุบันมีวัคซีนจำนวน 6 บริษัท ได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวคและซิโนฟาร์ม พร้อมลงนามในสัญญาจอง หรือ สัญญาซื้อแล้ว 105.5 ล้านโดส จะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้ รวมถึงจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมสำหรับปีหน้า จะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้ แบ่งเป็น

3.นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวโดยเริ่มต้นที่ จ.ภูเก็ต จากนั้นทยอยทดลองดำเนินการในพื้นที่อื่นต่อไป

หน่วยงานภาครัฐได้เตรียมความพร้อม เดินหน้าไปด้วยกัน
-กระทรวงสาธารณสุขฉีดวัคซีนได้ตามแผน 70 % ของประชากร
-กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เร่งประชาสัมพันธ์มาตรการกักตัวในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สุราษฏร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์และกรุงเทพฯ
-กระทรวงมหาดไทยเปิดช่องทางกฎหมายให้ใช้งบท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนได้
-กระทรวงการคลังช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1.4 แสนล้านบาท ลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชาชนมากกว่า 51 ล้านคน กระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจรองรับการเปิดประเทศ

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี ยังมีมติรับทราบการเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวเริ่มต้น ที่ จ.ภูเก็ต (ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์) วันที่ 1 ก.ค.และเปิดพื้นที่ เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 15 ก.ค. โดยมีมาตรการ ดังนี้

ก่อนเดินทาง
– มีหนังสือรับรองเข้าประเทศ (Certificate of Entry – COE)
– มีใบรับรองแพทย์ยืนยันไม่ติดเชื้อโควิด-19 ตรวจด้วยวิธี RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง
– มีประกันสุขภาพครอบคลุมค่าใช้จ่ายวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงกรณีโควิด – 19
– มาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลาง หรือตามที่ สธ.กำหนด
– ได้รับวัคซีนตามกำหนดอย่างน้อย 14 วัน และมี Vaccine Certificate
– ลงทะเบียนผ่าน www.entrythailand.go.th

เมื่อเดินทางมาถึง
– ติดตั้งแอปพลิเคชัน Thailand Plus และแอปพลิเคชันอื่นๆตามจังหวัดกำหนด เช่น “หมอชนะ”
– รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
– เข้าพักที่ได้รับการรับรอง สำหรับ จ.ภูเก็ตต้องเป็นที่พักที่ได้การรับรองมาตรฐาน SHA Plus ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ในอนาคต เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะต้องเป็นที่พัก ALQ

การปฏิบัติตัวระหว่างอยู่ใน Sand box
ภูเก็ต : หากตรวจไม่พบเชื้อ เที่ยวในจังหวัดได้เลย แต่ต้องอยู่ภูเก็ตอย่างน้อย 14 วัน
สมุย พะงัน เต่า:
วันที่ 1-3 สามารถออกนอกห้องพักและใช้บริการบริเวณที่พัก
วันที่ 4-7 เที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนด
วันที่ 8 – 14 เที่ยวในเกาะแบบไม่มีเงื่อนไข โดยต้องตรวจโควิดด้วยวิธี RT – PCR อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6 – 7 และ 12 – 13 หรือตามกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อครบ 14 วัน สามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นๆ พร้อมแสดงหลักฐานการพำนักตามกำหนดและผลการตรวจโควิด
หากอยู่น้อยกว่า 14 วัน ต้องบินออกประเทศเท่านั้น

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ชะลอหรือยกเลิก มีดังนี้
– จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 ราย/สัปดาห์
– พบการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล
– พบการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์หรือมีการระบาดใน วงกว้าง หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้
– ความพร้อมรองรับผู้ป่วย มีผู้ติดเชื้อครองเตียง ตั้งแต่ 80% ของศักยภาพจังหวัด
– พบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้างควบคุมไม่ได้

สามารถมีมาตรการปรับเปลี่ยน 4 ระดับ คือ ปรับลดกิจกรรม ควบคุมเส้นทางการเดินทาง (sealed route) มาตรการกักตัวในโรงแรม (Hotel Quarantine) และทบทวนยุติภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ส่วนกรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า หากเกิดการระบาดจนโรงพยาบาลเกาะสมุยไม่สามารถรองรับได้ โรงพยาบาลเกาะสมุยจะดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงที่วางไว้

Exit mobile version