Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

แนะ 4 วิธีเลี่ยง ช้อปเกินตัว! ใน Amazon Prime Day 2021

แนะ 4 วิธีเลี่ยง ช้อปเกินตัว! ใน Amazon Prime Day 2021

ถ้าพูดถึง Amazon คนไทยคงนึกไปถึงร้านกาแฟชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ในปั้มน้ำมัน แต่สำหรับทั่วโลกแล้ว Amazon คือ เว็บไซต์ Amazon.com ร้านค้าออนไลน์ยอดนิยม โดยในทุกปี Amazon.com จะจัดมหกรรม Amazon Prime Day หรือ วันลดราคาสินค้าเพื่อสมาชิกที่สมัครใช้บริการ Amazon Prime จะจัดขึ้นทุกปลายปี (เดือนตุลาคม) ก่อนเทศกาล Black Friday และ Cyber Monday และจะใช้เวลาจัดกิจกรรม 2 วัน

แต่ปี 2021 Amazon.com กำหนดจัดกิจกรรมเร็วขึ้น ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม และแน่นอนว่า สายชอปตัวยง จะถูกเสนอส่วนลดต่างๆ ให้มากมาย ทำให้บางคนถึงกับจนอดใจไม่ไหว ยอมรูดบัตรเครดิตดอกเบี้ยสูง เพื่อซื้อสินค้าเหล่านั้น มีค่า นิวส์ ไปเจอบทความหนึ่ง เสนอ 4 วิธีเลี่ยงใช้จ่ายเกินตัว ใน Prime Day จึงเรียบเรียงมาให้อ่านกัน

Josh Nelson นักวางแผนทางการเงินที่ผ่านการรับรอง (CFP) ใน Loveland, CO. ระบุว่า ไม่สำคัญหรอกว่า ข้อตกลงจะดีแค่ไหน หากคุณจ่ายดอกเบี้ย 20% ขึ้นไปสำหรับยอดบัตรเครดิต และจงอย่าใช้จ่ายมากกว่าที่คุณสามารถจ่ายได้ในทันที ซึ่งทำได้ ดังนี้

  1. ทำรายการสิ่งที่คุณต้องการ กำหนดงบประมาณ
    Amazon.com มักจะโพสต์ข้อเสนอล่วงหน้าในแอปฯ ซึ่งช่วยให้คุณวางแผนการซื้อล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มรายการไปยัง Wish List และตั้งค่าการแจ้งเตือน หากมีสินค้าลดราคาได้ด้วย
  2. อย่ายอมแพ้กับลูกเล่นทางการตลาด
    ผู้ค้าปลีกออนไลน์อย่าง Amazon.com มักจะใช้กลยุทธ์เด็ด อย่างการทำให้ดูเหมือนว่าสินค้าชนิดนั้นๆ มีอยู่น้อยชิ้น คุณมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการซื้อ ทั้งที่ความจริงสินค้าดังกล่าว เป็นสินค้าที่ผลิตในปริมาณมาก และจะไม่ขาดแคลน
  3. ใช้ซอฟต์แวร์ติดตามราคา
    ตรวจสอบประวัติราคาของสินค้า ที่คุณกำลังมองหา โดยใช้เว็บไซต์ติดตามราคา เช่น Honey ข้อมูลนี้ สามารถแจ้งให้คุณทราบว่า คุณได้รับข้อเสนอที่ดีจากสินค้าจริงหรือไม่ หรือ ราคาเพิ่งจะขึ้นก่อนการขายไม่นาน
  4. คืนสินค้าหากคุณมีความสำนึกผิดของผู้ซื้อ
    มันง่าย และฟรี ในการคืนสินค้าที่คุณไม่ต้องการ โดยไปที่ตู้เก็บของ Amazon, UPS Store หรือ Whole Foods บางครั้งคุณสามารถให้ UPS ไปรับสินค้าของคุณได้ โดยมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย

บทความดังกล่าว ยังเปิดเผย 3 วิธีเด็ด เพื่อปลดหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย

  1. ออกสินเชื่อรวมบัตรเครดิต
    วิธีหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในการชำระหนี้บัตรเครดิต คือ การทำสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสินเชื่อก้อน ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งจะชำระคืนเป็นงวดรายเดือนตามระยะเวลาที่กำหนด โดยปกติจะใช้เวลาสองสามปี
    ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของการรวมหนี้กับสินเชื่อส่วนบุคคล คือ การประหยัดต้นทุน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของสินเชื่อส่วนบุคคลระยะเวลาสองปีอยู่ที่ 9.46% ในไตรมาสแรกของปี 2021 ตามข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยของบัญชีบัตรเครดิตประเมินดอกเบี้ยอยู่ที่ 15.91% ในกรอบช่วงเวลาเดียวกัน
    นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงแล้ว สินเชื่อส่วนบุคคล ยังมีอัตราคงที่และการชำระเงินรายเดือน ดังนั้น จำนวนเงินที่คุณเป็นหนี้ จะยังคงเท่าเดิม จับตาดูค่าธรรมเนียมสินเชื่อส่วนบุคคล เช่น ค่าธรรมเนียมการขอสินเชื่อ และพิจารณาว่าข้อเสนอสินเชื่อส่วนบุคคลที่ดีที่สุดสงวนไว้สำหรับผู้กู้ที่มีคะแนนเครดิตดีเยี่ยมและมีอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ต่ำ
  2. ใช้บัตรเครดิตโอนยอดคงเหลือที่มีอัตรา 0% ต่อปี
    หากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก แต่ยังมีคะแนนเครดิตที่ดี คุณอาจพิจารณาเปิดบัตรเครดิต สำหรับการโอนยอดคงเหลือ ที่มีช่วงแนะนำ APR 0% วิธีนี้ทำให้คุณสามารถชำระหนี้บัตรเครดิตด้วยดอกเบี้ย 0% ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วจะนานถึง 18 เดือน จากนั้น คุณจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยจากยอดเงินคงเหลือ แต่ต้องระวังเพิ่ม ดังนี้
    • ค่าธรรมเนียมการโอนยอดคงเหลือ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 3-5% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่กำลังโอน
    • ขีดจำกัดการโอนยอดคงเหลือ คุณอาจมีหนี้มากเกินไปที่จะโอนไปยังบัตรใบอื่น
    • ค่าธรรมเนียมรายปี บัตรเครดิตบางประเภทมาพร้อมกับค่าธรรมเนียมรายปี ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม
  3. สมัครแผนการจัดการหนี้ผ่านที่ปรึกษาสินเชื่อ
    หากคะแนนเครดิตของคุณต่ำเกินกว่าที่จะมีสิทธิได้รับสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ บัตรเครดิตสำหรับการโอนยอดคงเหลือ ให้พิจารณาหาทางบรรเทาหนี้ผ่านที่ปรึกษาสินเชื่อที่ไม่แสวงหากำไร หน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล สามารถช่วยคุณชำระเงินด้วยบัตรเครดิตของคุณได้ โดยการลงทะเบียนในแผนการจัดการหนี้ (DMP)
    ตลอดกระบวนการนี้ ผู้ให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อของคุณ จะทำงานร่วมกับเจ้าหนี้ของคุณเพื่อวางแผนการชำระคืนที่ยุติธรรม และอาจช่วยคุณประหยัดเงินได้ด้วยการเจรจาอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง โดยทั่วไปแล้ว การปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาสินเชื่อครั้งแรกของคุณจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้ว่าการลงทะเบียนใน DMP อาจมีค่าธรรมเนียมรายเดือนเล็กน้อย

ในขณะที่คุณค้นหาบริการให้คำปรึกษาด้านเครดิต ให้ระวังการหลอกลวงเพื่อบรรเทาหนี้และบริษัทรับชำระหนี้ ที่แสวงหาผลกำไร ซึ่งเอาเปรียบคุณจากสถานการณ์ทางการเงิน คุณสามารถหาที่ปรึกษาสินเชื่อ ที่ไม่แสวงหากำไรที่ได้รับการรับรองผ่านมูลนิธิ เพื่อการให้คำปรึกษาสินเชื่อแห่งชาติ

ที่มา : https://www.foxbusiness.com/money/prime-day-consolidate-credit-card-debt

Exit mobile version