ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ(คมส.) ครั้งที่ 2/2564 โดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. มีมติเห็นชอบให้นำมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 13 เรื่อง “การบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพแบบมีส่วนร่วม กรณีโรคระบาดใหญ่” มาทำการสื่อสารให้เป็นวาระร่วมของสมัชชาสุขภาพจังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกันขับเคลื่อนมติในระดับพื้นที่เร่งด่วน เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 สอดรับมาตรการ Home Isolation และ Community Isolation
นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า บทบาทของ สช. หลังจากนี้จะเป็นการเร่งประสาน และเตรียมความพร้อมของสมัชชาสุขภาพจังหวัด ในการขับเคลื่อนมติฯ ดังกล่าว โดยจะประสานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ใช้ศักยภาพของสมัชชาสุขภาพจังหวัด ในการสร้างความพร้อมและการมีส่วนร่วมของชุมชน สนับสนุนทางราชการในการควบคุมโรคโควิด-19
แนวทางของมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติฯ การบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพแบบมีส่วนร่วม กรณีโรคระบาดใหญ่นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเฝ้าระวัง ควบคุมโรค และตัดวงจรการแพร่ระบาดเท่านั้น แต่จะยังมีสาระสำคัญในมิติของการฟื้นฟูเยียวยาด้านสังคม ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบไปควบคู่กันด้วย
สำหรับมติฯ เรื่องดังกล่าว มีสาระสำคัญของการสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการวิกฤตสุขภาพ ที่เท่าทันสถานการณ์อย่างเป็นระบบ โดยให้หน่วยงานภูมิภาคพัฒนากลไกระดับพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็ง เน้นการมีส่วนร่วมของภาคสังคม เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคระบาดพื้นที่ บริหารจัดการเครื่องอุปโภคบริโภค รวมถึงเตรียมพร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สนับสนุนระบบเฝ้าระวัง บริหารจัดแผนเผชิญเหตุ พัฒนาศักยภาพบุคลากรท้องถิ่นให้มีความรู้และทักษะจัดการวิกฤตสุขภาพ