Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

สธ.เล็งจัดวัคซีน บูสเตอร์โดส ให้บุคลากรการแพทย์ พร้อมเน้นฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ-กลุ่มเปราะบาง พื้นที่เสี่ยงสูง อาจบังคับ Work From Home

ปรับแผน! จัดวัคซีน บูสเตอร์โดส ให้บุคลากรการแพทย์ เน้นฉีดผู้สูงอายุ-กลุ่มเปราะบาง เตรียมบังคับ Work From Home

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากนี้เตรียมจัดวัคซีน บูสเตอร์โดส ให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น และป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ โดยคณะวิชาการ จะพิจารณาว่าจะใช้วัคซีนตัวไหน แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศเดินหน้าให้บริการประชาชนได้

นอกจากนี้ จะเน้นฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง 7 กลุ่มโรค ที่เสี่ยงติดเชื้อ แล้วจะมีอาการรุนแรง โดยตั้งเป้าหมายไว้ 10 ล้านโดส จะกระจายทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2-2.5 ล้านโดส  ในพื้นที่ กทม.มีประมาณ 1.8 ล้านคน จะระดมฉีดให้ได้ร้อยละ 70 ภายใน 2 สัปดาห์ / ปริมณฑลจะฉีดให้ครบในกรกฎาคมนี้ / และจังหวัดอื่นๆ จะฉีดภายในสิงหาคมนี้

ส่วนการฉีด เพื่อควบคุมการระบาดโดยเฉพาะจุดเสี่ยง ที่จะระบาดในวงกว้าง เช่น โรงงาน ตลาด จะฉีดวัคซีนชุมชนโดยรอบ ป้องกันการแพร่กระจาย กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อสูง และกลุ่มที่มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อสูง โดยจะปรับมาตรการให้สอดคล้อง คือ

1.จัดทำฟาสต์แทร็ก หรือ ทางด่วนให้ได้รับการตรวจลำดับแรกๆ รักษาในโรงพยาบาลทันที เพื่อลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

2.บุคคลกลุ่มอื่น จะปรับการตรวจการติดเชื้อไปจุดอื่น เช่น หน่วยตรวจเชิงรุก คลินิกชุมชน เป็นต้น 

3.ปรับการสอบสวนควบคุมโรค เน้นไม่ให้เกิดกลุ่มก้อนใหญ่ (คลัสเตอร์) หาจุดเสี่ยงการระบาดใหญ่ให้ทันเวลาการสอบสวนเฉพาะราย (ไทม์ไลน์) ให้แต่ละจุดตรวจดำเนินการแทน

4.การควบคุมเชิงรุกในจุดเสี่ยง ที่ทำให้เกิดการระบาดวงกว้าง (ซูเปอร์ สเปรดเดอร์) จะทำมาตรการ Bubble and Seal ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว แคมป์ก่อสร้าง โรงงานสถานประกอบการ ตลาดสด ตลาดขนาดใหญ่ ชุมชนแออัด เรือนจำ สถานพินิจ แหล่งรวมตัวใหญ่ๆ เนอร์สซิ่ง แคร์ผู้สูงอายุ ร่วมกับทาง กทม.

ด้านมาตรการควบคุมโรคในต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่มีการติดเชื้อไม่มาก จะเฝ้าระวังผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจที่ไปโรงพยาบาล ผู้ป่วยปอดอักเสบ และมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง การสอบสวนโรค ค้นหาผู้ติดเชื้อเพื่อกักกันโรคตามความเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ ค้นหาเชิงรุกในชุมชนเข้มข้น

สำหรับการยกระดับมาตรการสังคมและองค์กร โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล อาจต้องบังคับมาตรการ Work From Home ในสถานที่หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ ที่ไม่เป็นหน่วยบริการป้องกันควบคุมโรค หรือ รักษาพยาบาล และในสถานประกอบการเอกชนขนาดใหญ่ให้ได้ร้อยละ 70 และสื่อสารให้ประชาชนเพิ่มความเข้มข้นมาตรการส่วนบุคคล ประยุกต์หลักการ Bubble and Seal มาใช้กับตัวเองและครอบครัว เนื่องจากส่วนใหญ่ติดเชื้อที่บ้านและที่ทำงาน จึงขอให้ใส่หน้ากากให้มากที่สุด ทั้งบ้านและที่ทำงาน งดกิจกรรมอื่นที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการรับประทานอาหารร่วมกัน และระมัดระวังการเดินทาง

Exit mobile version