ถ้าพูดถึง “กล้วย” หลายคนอาจคิดว่า มันคือ กล้วยธรรมดาๆ แต่ถ้าพูดถึง “กล้วยด่าง” มันจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป แถมยังพิเศษตรงที่ ราคาของ “กล้วยด่าง” นั้น มีมูลค่าสูงสุดถึงหลักล้านบาท! จึงดึงดูด กลุ่มคนรักต้นไม้ ต่างเสาะหา “กล้วยด่าง” มาไว้ในครอบครอง ทั้งปลูกประดับบ้าน และปลูกขายสร้างรายได้จำนวนมาก มีค่า นิวส์ เลยพาทุกคน มาดู “กล้วยด่าง” 9 ชนิด ที่ยิ่งด่าง ก็ยิ่งมีราคาแพง จะมีชนิดไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ
1.กล้วยด่างฟลอริด้า
ค้นพบครั้งแรกที่ฮาวาย เมื่อ 76 ปีก่อน ความสูงประมาณ 3-6 เมตร ไม่มีเนื้อไม้ ส่วนที่อยู่เหนือดินเป็นลำต้นเทียมเกิดจากกาบใบซ้อนกันจนแน่น ใบเดี่ยวรูปช้อน ปลายใบแหลมยาวมีติ่ง โคนใบมน ขอบเรียบ ใบสีเขียวมีด่างสีขาว หรือ สีเหลืองตามแนวเส้นใบ จะออกดอกมากในช่วงที่มีอากาศเย็น
ราคาประมาณ 20,000 – 600,000 บาท
2.กล้วยแดงอินโด
นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย สูงประมาณ 3 เมตร ไม่มีเนื้อไม้ แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ ตรงที่กาบใบ มีสีน้ำตาลแกมแดงเข้ม ซ้อนทับกันแน่นเป็นลำต้นเทียม ใบเดี่ยวรูปขอบขนาน ปลายแหลมมีติ่ง โคนมน เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดีใน แสงแดดรำไร ชอบน้ำปานกลาง เมื่อปี 2561 ประเทศไทยเคยต่อยอดกล้วยพันธุ์นี้ ให้มีลายด่างได้ถึง 6 แบบ 6 ชื่อด้วย
ราคาประมาณ 60,000 – 1,500,000 บาท
3.กล้วยไอศกรีม
เป็นสายพันธุ์กล้วยชวา สีน้ำเงิน โดยเป็นการผสมกันของกล้วยป่า และกล้วยตานี มีหน้าตาคล้ายกล้วยน้ำว้าของไทย แต่มีเปลือกสีน้ำเงินคราม พบได้ในเอเชียใต้ ผลมีรสชาติคล้ายไอศกรีมวนิลลา เหมาะกับคนลดน้ำหนัก มีโภชนาการสูง มีโพแทสเซียมและแร่ธาตุอื่นๆสูง ทนหนาวได้ดีกว่ากล้วยปกติ เติบโตได้ดีที่สุดในอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
ราคาประมาณ 12,000 – 350,000 บาท
4.กล้วยป่าด่างลายหินอ่อน
ต้นไม่สูงใหญ่มาก จัดสวนสวย แต่งบ้านสวย ลงดินหรือปลูกในกระถางได้ ยิ่งแดดจัด ลายใบยิ่งสวยชัดเจนมาก
ราคาประมาณ 5,000 – 50,000 บาท
5.กล้วยเทพพนมด่าง
ลำต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร ไม่มีเนื้อไม้ ส่วนที่อยู่เหนือดินเป็นลำต้นเทียม เกิดจากกาบซ้อนทับกัน กาบใบด้านนอกเป็นสีเขียว โคนกาบและกาบด้านในเป็นสีชมพู ใบสีเขียวมีลายด่างสีขาว หรือ สีเหลืองขึ้นตามเส้นใบ ออกผลติดกันคล้ายพนมมือ เมื่อผลสุก จะมีรสหวาน ไม่มีเมล็ด นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ปลูกง่าย เติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
ราคาประมาณ 50,000 – 800,000 บาท
6.กล้วยป่าปาปัว
มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปกติจะอยู่ที่ในป่าดิบชื้นของปาปัวนิวกินี จัดเป็นกล้วยหายากที่สุด มันอาจมีความสูงได้ถึง 15 เมตร และยังกว้างได้ถึง 2 เมตร ซึ่งเป็นถิ่นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองชื่อว่า Danseurs Kalu
ราคาประมาณ 3,500 – 65,000 บาท
7.กล้วยเสือพรานด่าง
ลำต้นเทียมสีแดงอมชมพูมีปื้นเป็นแถบสีดำ ใบเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนป้าน แผ่นใบด้านบนเป็นสีเขียว มีปื้นด่างสีเลือดหมู หรือ สีม่วงแดงแต้มเป็นจุดๆทั่วทั้งใบ ผลเมื่อสุกเนื้อเป็นสีขาว มีขนาดเล็กมีรสชาติหวาน แต่มีเนื้อน้อยและเมล็ดเยอะ จึงไม่นิยมรับประทานกัน นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเป็นกลุ่มๆ หลายๆ ต้น เวลามีใบดกจะดูสวยงาม
ราคาประมาณ 5,500 – 80,000 บาท
8.กล้วยแกรนด์แนน
อีกชื่อหนึ่ง คือ กล้วยหอมแคระ มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ต้นเตี้ยแคระ สูงเต็มที่ไม่เกิน 1 เมตร หวีหนึ่งมี 14–16 ผล ลักษณะผลคล้ายกับกล้วยหอมเขียว แต่ขนาดจะเล็กสั้นและอ้วนกว่า เมื่อปลูกไปได้ประมาณ 1 ปี จะติดดอกออกผลและถ้ายิ่งปลูกลงดิน จะยิ่งให้ลูกเยอะ กว่าการปลูกในกระถาง
ราคาประมาณ 52,000 – 600,000 บาท
9.กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง
เป็นกล้วยพันธุ์โบราณ นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายมาช้านานแล้ว ลำต้นเทียม ผลจะมีนวลสีขาวที่เปลือกทั้งผล เวลาผลสุกจะเป็นสีเหลืองนวล คล้ายมีแป้งฉีดพ่น เนื้อในสุกเป็นสีส้ม ไส้มีขนาดเล็ก เหนียวนุ่ม รสชาติหวานจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รับประทานอร่อยมาก นิยมปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือน สมัยก่อนนิยมนำกล้วยน้ำว้ามะลิอ่องใส่บาตรหรือถวายพระถือว่าจะได้กุศลแรงที่สุด
ราคาประมาณ 22,000 – 450,000 บาท
ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/lifestyle/472682