ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 12 ก.ค.64 เห็นชอบมาตรการเยียวยานายจ้าง และผู้ประกันตนรวมทั้งอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด เป็นเวลา 1 เดือน
จากเดิมมีประเภทกิจการ ที่ให้ความช่วยเหลือ 4 สาขา คือ กิจการก่อสร้าง / กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร / กิจกรรมศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ / และกิจกรรมบริการอื่นๆ
เพิ่มเติมอีก 5 สาขา คือ กิจการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า / กิจการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ / กิจการกิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน / กิจการกิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ / และกิจการข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร
สำหรับรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
1.ลูกจ้างมาตรา 33 จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และจ่ายสมทบให้สัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน ไม่เกิน 10,000 บาท
2.นายจ้างมาตรา 33 จ่าย 3,000 บาทต่อคน ลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน
3.ผู้ประกันตนมาตรา 39,40 จ่ายรายละ 5,000 บาท
4.ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 40 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อจะได้รับ 5,000 บาท
5.ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 33 ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามการเยียวยาลูกจ้างมาตรา 33 และนายจ้างมาตรา 33
6.ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะที่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท
7.ผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ที่ไม่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท
ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงิน เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากรัฐบาล และตรวจสอบข้อมูลถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้แก่ผู้ประกันตน ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40
รวมถึงนายจ้างในกิจการเจ้าของคนเดียว ที่มีชื่อระบุตามทะเบียนพาณิชย์ ขอให้รีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย / ส่วนนายจ้างที่มีสถานะนิติบุคคล สำนักประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า การช่วยเหลือเยียวยาทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตนครั้งนี้ ทางกระทรวงแรงงานมั่นใจว่าจะช่วยให้กิจการที่ได้รับผลกระทบฟื้นตัวโดยเร็ว
จากนี้จะประชุมหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งกำหนดรายละเอียดให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ก่อนจะดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไป