ผู้ประกอบการ “ถุงเงิน” จะรับเงินเยียวยา ต้องเข้าระบบประกันสังคมก่อน

หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ประกันตน (ลูกจ้าง) และผู้ประกอบการ (นายจ้าง) มาตรา 33  มาตรา 39 และมาตรา 40 ทั้งในและนอกระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) รวม 13 จังหวัด

ซึ่งนอกจากกลุ่มดังกล่าวข้างต้นแล้ว  ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ภายใต้ “โครงการคนละครึ่ง” และ ” โครงการเราชนะ”  ก็ได้รับสิทธิเยียวยาครั้งนี้เช่นกัน  ประกอบด้วย ร้านค้า 5 กลุ่ม  ดังนี้

1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

2.ร้าน OTOP

3.ร้านค้าทั่วไป

4.ร้านค้าบริการ

5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่)

หลักเกณฑ์ช่วยเหลือ คือ

1.ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากไม่มีลูกจ้าง ให้ดำเนินการ ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อรับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน

2.ผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่มีลูกจ้าง แต่ยังไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนนายจ้างในระบบประกันสังคม  พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนลูกจ้าง เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือ ดังนี้ – นายจ้าง จะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

– ลูกจ้าง ที่เป็นสัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 2,500 บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน