แม้อิทธิพลของพายุโซนร้อน “เจิมปากา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่ง ซึ่งกรมชลประทาน ได้จับตาเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย มีฝนตกชุกมากขึ้น ส่งผลดีให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันด้วย
สำหรับสถานการณ์อุทกภัย ล่าสุด(2 ส.ค. 64) ในพื้นที่จังหวัดตรัง สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดเลย ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ โดยที่จังหวัดตาก น้ำในแม่น้ำเมย ยังคงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลนครแม่สอดและเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด ระดับน้ำสูง 0.2-0.3 เมตร
ที่จังหวัดเลย มีพื้นที่น้ำท่วมบริเวณ อำเภอด่านซ้าย 4 จุด ได้แก่ ในตัวเมืองด่านซ้าย บ้านนาเวียง บ้านนาหอ และบ้านนาหมูม่น ปัจจุบันปริมาณน้ำในลำน้ำหมัน ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับวิกฤต เนื่องจากลำน้ำหมัน เป็นลำน้ำสายหลักที่ไหลผ่าน อำเภอด่านซ้าย ลำห้วยมีสภาพลาดชัน ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเหือง ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนไทย-ลาว
ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เน้นเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งพิจารณาปรับการระบายให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ และไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างฯ
ย้ำหากจะมีการระบายน้ำต้องประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนด้านท้ายอ่างฯทราบก่อนทุกครั้ง รวมไปถึงให้ติดตามวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงตามประกาศแจ้งเตือนของ กอนช. อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต้องพร้อมที่จะออกปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา
หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา