Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

สรุป! 11 ข้อกำหนด “ล็อกดาวน์” ถึง 31 ส.ค. ทำอะไรได้บ้าง

หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) โดยมีรายละเอียดมากถึง 11 ข้อ มีค่า นิวส์ จึงสรุปมาให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1.การปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์
จำแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์ตามรายชื่อจังหวัด หรือ ที่เราเรียกว่า การแบ่งโซนสีใหม่ ซึ่งครั้งนี้ ศบค.แบ่งใหม่ให้เหลือแค่ 3 สี ดูเขตพื้นที่ตามสีที่นี่ https://mekhanews.com/2021/08/01/lockdown-for-14-days-how-to-adjust-the-new-surveillance-area/

2.การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ได้แก่

3.การปรับเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม และตรวจคัดกรองการเดินทาง พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)
มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) / ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) / กรุงเทพมหานคร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด ในเส้นทางข้ามเขตจังหวัด

ส่วนการเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปยังพื้นที่อื่น เพื่อการตรวจคัดกรอง ชะลอ หรือสกัดกั้นการเดินทางของบุคคล ให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติที่ ศปก.ศบค. กำหนด และให้พิจารณาบุคคลที่ได้รับยกเว้น

4.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกันของบุคคล ดังนี้

ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ ศปก.ศบค. กำหนดให้ ศปม. พิจารณามาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม เพื่อการเข้าระงับยับยั้ง การตรวจสอบ การยุติการชุมนุม หรือ การทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

5.กิจกรรมที่ได้รับยกเว้น หรือ การรวมกลุ่มของบุคคลที่สามารถจัดได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต มีดังนี้

6.การปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน สำหรับสถานที่ กิจการ หรือ กิจกรรมที่มีความเสี่ยง คือ

7.การปรับเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม การเดินทางของกลุ่มแรงงานก่อสร้างพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ให้ ศบค.มท. ศปม.กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล พิจารณาผ่อนคลายมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าออกของแรงงานก่อสร้าง ที่เดินทางข้ามเขตจังหวัดในเส้นทางคมนาคมเข้าออกกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายในข้อกำหนดฉบับนี้

8.มาตรการเพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างทั่วราชอาณาจักร
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณานำมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) และมาตรการการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและสถานที่
ทำงานภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route) มาใช้บังคับให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่

9.มาตรการเพื่อการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงาน สถานประกอบกิจการหรือโรงงานทั่วราชอาณาจักร
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อดำเนินการตรวจสอบ กำกับดูแล ประเมินผลการปฏิบัติเฉพาะ Bubble and Seal เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ยังคงให้สถานประกอบกิจการหรือโรงงานดำเนินกิจการต่อไปภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด มีมาตรการการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและสถานที่ทำงานภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route) เช่น มีการบริหารจัดการในการแยกผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ และกลุ่มเปราะบาง มีบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งมีการจัดเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

10.การกำหนดมาตรการเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด เพื่อให้การป้องกันและควบคุม การระบาดของโรคสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด อาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ในการสั่งปิด จำกัด หรือ ห้ามการดำเนินการของสถานที่ กิจการ หรือ สั่งให้งดการทำกิจกรรมอื่น ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เป็นการเพิ่มเติม นอกเหนือจากมาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่ส่วนกลางกำหนดได้ โดยให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ ศปก.ศบค. หรือ ศบค.มท. กำหนด

11.การบังคับใช้มาตรการตามข้อกำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและกำกับการปฏิบัติตามมาตรการ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยให้ประเมินสถานการณ์และความเหมาะสมของมาตรการตามข้อกำหนดนี้ทุกห้วงระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

Exit mobile version