Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ประกันสังคม ขยายวงเงินสินเชื่อฯ ช่วยผู้ประกอบการ

ประกันสังคม ขยายวงเงินสินเชื่อฯ ช่วยผู้ประกอบการ

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 2 (พ.ศ. 2563 – 2564) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถนำเงินกู้ที่ได้รับจากการขอสินเชื่อไปรักษาการจ้างงาน ของลูกจ้างในสถานประกอบการ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้กำหนดเงื่อนไขให้สถานประกอบการรักษาจำนวนผู้ประกันตนให้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุสินเชื่อ ขอสินเชื่อ

จากการดำเนินโครงการฯ พบว่า มีสถานประกอบการขนาดใหญ่ ที่มีลูกจ้างเป็นจำนวนมาก ยังต้องการเงินกู้มากกว่า 15 ล้านบาท เพื่อรักษาการจ้างงานของลูกจ้างในสถานประกอบการของตนเอง สำนักงานประกันสังคม และคณะกรรมการประกันสังคมฯ จึงมีมติในการประชุม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 เห็นชอบให้ขยายวงเงินสำหรับสถานประกอบการ คือ

จากเดิมไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อสถานประกอบการ เปลี่ยนให้เป็นกำหนดตามจำนวนลูกจ้าง ในสถานประกอบการ หากจำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน วงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อสถานประกอบการ และจำนวนลูกจ้างตั้งแต่ 201 คนขึ้นไป วงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อสถานประกอบการ

กำหนดวงเงินรวม ที่ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 201 คน ขึ้นไป ไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารได้รับจัดสรรปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้ไขบันทึกข้อตกลง(MOU) โดยคาดว่า จะเริ่มเพิ่มวงเงินได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การให้สินเชื่อตามโครงการสินเชื่อ เพื่อส่งเสริมการจ้างงานฯ สำนักงานประกันสังคมไม่ได้กำหนดเฉพาะเจาะจงในประเภทกิจการใดกิจการหนึ่ง ยังคงให้สถานประกอบการทุกประเภทกิจการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมและจ่ายเงินสมทบ เข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 เดือน สามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร  5 แห่ง ได้แก่

– ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

– ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

– ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)

– ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

– ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

สามารถขอวงเงินได้ รายละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการพิจารณาให้สินเชื่อ เป็นไปตามระเบียบ และดุลยพินิจของแต่ละธนาคาร ถ้ากรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 2.75 ต่อปี แต่ถ้ากรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย สูงสุดไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี         

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อ เพื่อการจ้างงาน สามารถขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นสถานประกอบการในระบบ e-service ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th/eservices/esv/index.jsp เลือกหัวข้อ “ขอหนังสือรับรอง (โครงการสินเชื่อฯ)” หรือ สแกน QR code ซึ่งผู้ประกอบการสามารถติดต่อยื่นคำขอสินเชื่อที่ธนาคารทั้ง 5 แห่งข้างต้น ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

Exit mobile version