นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของระบบการกลืนอาหาร การทำงานของช่องปาก กลไกของระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนลดลง ระบบอวัยวะต่างๆ เสื่อมลง อาจทำให้ผู้สูงอายุ เสี่ยงเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น สำลัก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ รวมถึงการมีเสมหะ เศษอาหาร หรือ ฟันปลอมที่ชำรุดไปอุดกั้นทางเดินหายใจ
ทั้งนี้ การป้องกันการเกิดภาวะฉุกเฉินในผู้สูงอายุ อาจทำได้ยาก เพราะอาการที่เกิดขึ้นสังเกตได้ยาก และไม่ชัดเจน ทางนายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ จึงมีวิธีสังเกตดูแลผู้สูงอายุหากเกิดอาการสำลัก หรือ มีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น
คือ ผู้สูงอายุ จะมีอาการหายใจ ติดขัด มีเสียงคล้ายนกหวีด ขณะหายใจ พยายามพูดแต่ไม่มีเสียง อาจหมดสติภายใน 4-5 นาที และอาจจะเสียชีวิตได้
ส่วนการดูแลเบื้องต้น ผู้สูงอายุอาจไม่มีแรงในการไอ เพื่อขับสิ่งที่อุดกั้นทางเดินหายใจให้ออกมา ผู้ดูแลต้องช่วยเหลือ ตามวิธี ดังต่อไปนี้
1.ยืนด้านหลังผู้สูงอายุ ใช้มืออ้อมจากด้านหลังมากำมือประสานไว้ที่หน้าท้องผู้สูงอายุ เหนือสะดือเล็กน้อย
2.กระแทกมือขึ้นด้านบน บริเวณกะบังลมอย่างรวดเร็ว โดยใช้แรงพอสมควร ตามจังหวะที่ผู้สูงอายุพยายามหายใจเอาสิ่งที่อุดกั้นออก ผู้ดูแลสามารถบอกได้ว่าสิ่งใดที่อุดกั้นทางเดินหายใจจะเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือต่อไป
สำหรับการป้องกันอาการสำลัก หรือ ภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น สามารถทำได้ คือ
1.ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้สำลักง่าย
2.ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการกลืน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อฝึกการกลืน และรีบรักษา เมื่อมีปัญหาเรื่องไอหรือเสมหะ