Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

เปิดเทคนิค “ขายต้นไม้” ยุคโควิด “มุมไม้ สายเขียว” สร้างรายได้สูงถึงหลักแสน!

“ต้นไม้” มีความสำคัญหลายด้าน นอกจากจะตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม ยังช่วยสร้างอากาศที่ดีได้ด้วย แต่ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งเป็นยุคที่ทุกคนต่างต้องปรับตัว อย่างการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ก็อาจทำให้ใครหลายคน เกิดความเบื่อหน่าย เริ่มมองหากิจกรรมทำ หนึ่งในนั้น คือ การ “ปลูกต้นไม้” โดยเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ เดินทางไปเลือกชมต้นไม้ที่ร้าน

สาเหตุนี้ จึงทำให้ “ธุรกิจขายต้นไม้” เติบโตขึ้น สวนกระแสวิกฤตโควิด อย่างร้านของคุณปภังกร มูสิกะปาละ หรือ คุณโอม เจ้าของร้าน “มุมไม้ สายเขียว” ที่เริ่มต้นทำธุรกิจช่วงโควิดระลอก 3 แพร่ระบาดพอดี แต่กลับใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น (เดือนกันยายน 2564) ก็มีรายได้เดือนสูงถึงหลักแสนบาท! มีค่า นิวส์ จึงอยากรู้เทคนิคของคุณโอมว่าเขาทำอย่างไร ติดตามจาก SME ทันข่าว  

แรงบันดาลใจ เปิดร้าน “มุมไม้ สายเขียว” คืออะไร

คุณโอม เล่าว่า ตัวเขาเองไม่ได้สนใจเรื่องต้นไม้เลย ก่อนหน้าทำมาหลายอาชีพ จนมาทำธุรกิจค้าขายพระเครื่องและวัตถุมงคล แต่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เปิดหน้าร้านขายไม่ได้ ทำให้ขาดรายได้ แต่โชคดีที่คุณเมย์ แฟนสาว ยังทำงานประจำ จึงทำให้ยังพอมีเงินไว้ใช้จ่าย รวมถึงคุณโอมเอง ก็ยังขายพระเครื่องและวัตถุมงคลออนไลน์ แต่เกิดความคิดว่าอยากทำธุรกิจเล็กๆ ที่สามารถประคอง เลี้ยงดูครอบครัวได้ และต้องยั่งยืน

ซึ่งตอนแรกคิดไว้ 3 ธุรกิจ คือ ร้านอาหาร ผับ และร้านขายต้นไม้ แต่ค่อยๆตัดออกทีละธุรกิจ โดยพิจารณาจากคำสั่งปิดสถานที่ของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งร้านอาหารและผับ มักจะถูกสั่งปิดตลอด ส่วนร้านขายต้นไม้ยังเปิดขายได้ ไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์ใด  จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้น ทำธุรกิจขายต้นไม้ ร้าน “มุมไม้ สายเขียว” ด้วยเงินลงทุนแสนบาทต้นๆ แบ่งเป็น ค่าอุปกรณ์ ค่าตกแต่ง ค่าทำสัญญาเช่าร้าน

ขั้นตอนทำธุรกิจ เริ่มต้นอย่างไร

คุณโอม บอกว่า อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าไม่มีความรู้ด้านต้นไม้เลย แต่คิดว่า เมื่อจะทำแล้ว ก็ต้องศึกษาหาความรู้ เพื่อจะได้ทำธุรกิจได้อย่างมั่นคง โดยมีขั้นตอน ดังนี้

1.เริ่มต้นจากคิดก่อนเลยว่า อยากจะปลูกต้นไม้อะไร เช่น ไม้แดด ไม้มงคล ไม้ด่าง

2.จากนั้นก็เดินทางไปที่แหล่งขายต้นไม้ อย่างฟาร์มเพาะต้นไม้ หรือ แหล่งขายต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น แถวนครนายก ธัญบุรี  เพื่อสอบถามวิธีการดูแลต้นไม้ ชนิดที่เราอยากจะปลูก

3.ศึกษาวิธีการดูแลพันธุ์ไม้เพิ่มเติมจากใน Youtube เว็บไซต์ต่างประเทศ ว่ามีเทคนิคดูแลต้นไม้อะไรที่น่าสนใจหรือไม่ จดวิธีทำเอาไว้มาปรับใช้กับการดูแลต้นไม้ในร้าน

4.เมื่อมีความรู้พอสมควร จึงหาที่สถานที่ตั้งร้าน จนมาเช่าตรงตลาดต้นไม้สวนพฤกษา ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง (กีบหมู) ถนนหทัยราษฎร์ บางชัน คลองสามวา กรุงเทพฯ เพราะมองว่าทำเลดี คนพลุกพล่าน

5.จากนั้นเดินทางไปหาซื้อพันธุ์ไม้ที่จะนำมาขาย จากแหล่งขายต้นไม้หลายแห่ง ทั้งในซอยวัดพระเงินบางใหญ่ / สนามหลวง 2 ทวีวัฒนา  และตลาดต้นไม้ คลอง 15 มีทั้งแบบไม้พร้อมขายเลย กับไม้อนุบาล

สำหรับไม้พร้อมขาย คุณโอม มีเทคนิค คือ จะนำต้นไม้มาพักไว้ที่ร้าน ก่อนนำออกมาขาย 3 วัน โดยเปลี่ยนกระถางและดินให้ใหม่ เพื่อรอให้ต้นไม้ปรับสภาพ

รายได้เป็นอย่างไร และมีอุปสรรคที่ต้องรับมือหรือไม่

คุณโอม เปิดใจว่า เริ่มต้นทำธุรกิจกันสองคนกับแฟนสาว วันแรกขายไม่ได้เลย ลูกค้าเดินผ่าน แต่ไม่เข้าร้าน ไม่ได้เงินสักบาท ซึ่งคุณโอม คิดว่า อาจจะเป็นเพราะร้านเพิ่งเปิดใหม่ และต้นไม้ยังน้อย ประกอบกับอุปสรรคด้านสภาพอากาศ ที่ฝนตก ก็ทำให้คนไม่มาเลือกซื้อต้นไม้ จึงปรับกลยุทธ์การขายใหม่ ดังนี้

1.ลงทุนซื้อต้นไม้มาเพิ่ม โดยนำพระเครื่องค้างสต็อกออกมาขายทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ที่เสียภาษีถูกต้องตามกฏหมาย จนได้เงินมาก้อนหนึ่ง นำไปลงทุนซื้อต้นไม้ และใช้เทคนิค จัดลงกระถางสีขาว ให้ดูน่าซื้อ สะอาดตา บำรุงต้นไม้ให้สมบูรณ์แข็งแรง

2.ศึกษาพันธุ์ไม้ให้หลากหลายชนิดมากขึ้น อย่างลงทุนซื้อไม้ด่างมา  1 ต้น นำมาขยายพันธุ์เอง จนขายได้ในราคาสูงสุด หลักแสนบาท!

3.เปิดเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/moommaisaikheaw  ขายต้นไม้ทางออนไลน์ ใช้วิธีถ่ายรูปต้นไม้ให้ดูสวยงาม ถ่ายภาพบรรยากาศร้าน ลงขายทั้งในเพจ และ ยังนำไปฝากขายในกลุ่มต้นไม้ต่างๆ ด้วย

4.บริการลูกค้าให้ดีที่สุด เทคแคร์ ใส่ใจ ลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียม เช่น ให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลเรื่องต้นไม้บางอย่างที่ลูกค้าอาจจะยังไม่ทราบ เป็นต้น

คุณโอม บอกว่า หลังจากปรับกลยุทธ์การขายดังกล่าวแล้ว รายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไม่มีรายได้เลย ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น จากหลักหมื่นบาท ปัจจุบันก็อยู่ที่หลักแสนบาทต่อเดือน!

ซึ่งคุณโอม ยึดหลักคิดในการทำธุรกิจที่ว่า “ถ้าเราเดินไปแล้ว ต้องไปให้สุด จะดี หรือ ไม่ดี จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยเราก็ได้ทำแล้ว และถ้าไม่ประสบความสำเร็จ เราจะได้รู้ว่าเราพลาดตรงไหน และไม่กลับไปทำแบบนั้นซ้ำอีก”  

อยากให้แชร์เทคนิคปรับตัว ฝ่าวิกฤตโควิด-19

คุณโอม เล่าว่า ช่วงโควิด ไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจขายต้นไม้โดยตรง แต่เป็นเรื่องของปัจจัยการใช้จ่ายของลูกค้ามากกว่า ที่มีความระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้รายได้ร้านลดลงมากนัก ส่วนเทคนิคการปรับตัว มีเพียง 2 ข้อง่ายๆ ประกอบด้วย

1.ใจต้องมาก่อน พร้อมสู้กับอุปสรรค ต่อให้อุปสรรคหนักแค่ไหน ถ้ารู้จักปรับตัว เราก็จะผ่านไปได้

2.มองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เสริม อย่างคุณโอมมีความรู้งานช่างไม้ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช.ก็นำมาใช้ ด้วยการต่อยอดทำชั้นวางต้นไม้ ตามออเดอร์ของลูกค้าขายเพิ่มเติม เริ่มตั้งแต่ 1,250-3,500 บาท

แพลนขยายธุรกิจในอนาคต วางแผนไว้อย่างไร

หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น คุณโอมอยากขยายร้านต้นไม้ ตกแต่งแบบสวนป่าวินเทจ มีร้านกาแฟเล็กๆ ลูกค้านั่งทานได้สัก 2-3 โต๊ะ เพื่อให้บรรยากาศร้านดูครึกครึ้นมากขึ้น

ฝากกำลังใจถึงผู้ประกอบการคนอื่น ที่หมดกำลังใจจากโควิด

“วิกฤตโควิด หลายคนประสบปัญหากันทั้งนั้น อยากให้คิดว่า ทุกปัญหามีทางออก ไม่มีทางตัน เพียงแต่เราต้องใช้สติให้ดี เพียงแค่มีสติ ไม่ตื่นตูมกับสถานการณ์ ก็จะเจอทางออกของปัญหา ทำตัวให้เหมือนแม่น้ำ ที่ไหลไปได้เรื่อยๆ เมื่อเจออุปสรรคขวางหน้า ก็หลีกเลี่ยง จนผ่านไปได้ ส่วนเรื่องกลัวติดเชื้อโควิด เราก็แค่ป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ใจต้องสู้ก็พอ”

มีค่า นิวส์ หวังว่าทุกคน คงจะได้มุมมองความคิดจากคุณโอม ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้หลายข้อเลยนะคะ เอาเป็นว่า ถ้าใครอยากแวะไปชมต้นไม้สวยๆ หรือ อยากสั่งทำชั้นวางต้นไม้เก๋ๆ  ก็ไปหาคุณโอมได้ที่ร้าน “มุมไม้ สายเขียว” ตั้งอยู่ที่ตลาดต้นไม้สวนพฤกษา ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง (กีบหมู) ถนนหทัยราษฎร์ บางชัน คลองสามวา กรุงเทพฯ ร้านจะเป็นร้านแรกขวามือ (ฝั่งมีหลังคา) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 – 19.00 น.หรือโทรสอบถามที่ 083-037-6654

Exit mobile version