Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ตำรวจเตือนประชาชน ระวังถูกแอปฯ เว็บไซต์ หลอกลงทุน “แชร์ลูกโซ่”

เปิดข้อกฏหมาย!เว็บแชร์ลูกโซ่ พบเห็นแจ้ง 191

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง

แต่ปัจจุบันยังคงพบการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวอยู่ คาดว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยี ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปแบบของขบวนการแชร์ลูกโซ่มีการพัฒนารูปแบบให้มีความทันสมัยและทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

วิธีการ คือ จะมาในลักษณะแอปพลิเคชัน หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงประชาชน ก่อนหลอกชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ โดยอ้างว่า มีผลกำไร หรือ มีผลตอบแทนที่สูงมากในระยะเวลาสั้น ๆ และจดทะเบียนธุรกิจถูกต้อง

เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และช่วงแรกมักจะให้ค่าตอบแทนที่สูงจริง ๆ ตามที่อ้าง เพื่อล่อตาล่อใจ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็จะปิดตัวลง และไม่สามารถติดต่อกับเว็บไซต์หรือผู้ให้บริการดังกล่าวได้ในที่สุด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ โดยหากต้องการลงทุน ให้ดูความเป็นไปได้ และ ความน่าเชื่อถือด้วยว่า เป็นจริงอย่างที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่

แนะนำว่า ขอให้เลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือได้รับการรับรองตามกฎหมายในประเทศไทย ควรให้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งขอเตือนผู้ชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนเพื่อรับค่าตอบแทนการหาสมาชิก อาจถูกดำเนินคดี

สำหรับผู้ที่กระทำความผิด หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้ร่วมกระทำผิด หรือสนับสนุนการกระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ดังนี้

1.กระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นผู้โฆษณาชักชวนให้ปรากฏแก่บุคคล ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยตนรู้อยู่แล้วว่า เป็นการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

2.กระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน  เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือ ปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือ บางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชนฯ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นแอปพลิเคชัน หรือ เว็บไซต์ในลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสมายังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Exit mobile version