ตามที่มีฝนตกหนักมากทั่วทั้งจังหวัดลพบุรี ติดต่อกันในช่วง 23- 25 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้น้ำป่าจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัด ได้แก่ อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ อำเภอหนองม่วง และอำเภอโคกสำโรง ไหลตามเส้นทางน้ำมาถึงพื้นที่ ตำบลดงพลับ ตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ตั้งแต่เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา
ทำให้ขณะนี้ จังหวัดลพบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 10 อำเภอ (จาก 11 อำเภอ) 83 ตำบล 647 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้ผลกระทบ 55,197 คน มีผู้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว 120 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่ทางตอนบนของจังหวัดลพบุรีจะไหลต่อเนื่องลงมาสะสมในพื้นที่ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ฝั่งตะวันออกโดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นช้า ๆ แผ่กว้างออกไป ตามลำดับ ตั้งแต่พื้นที่ ดังนี้
– ตำบลหนองกระเบียน
– ตำบลหนองเมือง
– ตำบลบ้านกล้วย
– ตำบลบ้านทราย
– ตำบลหนองทรายขาว
จากนั้นจะไปสะสมที่ ตำบลพุคา ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำท่วมสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 20 เซนติเมตร
สำหรับมาตรการช่วยเหลือ กรมชลประทาน ได้ปรับลดการรับน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่ประตูมโนรมย์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จาก 16 ล้าน ลูกบาศก์เมตร/วัน เหลือเพียง 4 ล้าน ลูกบาศก์เมตร/วัน เพื่อพร่องน้ำ ลดระดับน้ำในคลอง
ขณะเดียวกัน ยังเดินเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทั้ง 11 แห่ง สามารถสูบน้ำได้วันละ 2,500,000 ลูกบาศก์เมตร ลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำป่าสักต่อไป โดยน้ำส่วนนี้จะไม่ไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองชัยนาท-ป่าสักในเขตอำเภอท่าวุ้ง และอำเภอบ้านหมี่
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในทุกอำเภอได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที โดยวางแผนอพยพ กำหนดจุดพักพิงสำหรับประชาชน ขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อเกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งสนับสนุนทั้งกำลังพล เครื่องมือ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้ง สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา