น้ำในแม่น้ำยมจากจังหวัดสุโขทัย ไหลลงสู่จังหวัดพิษณุโลกอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน เร่งผันน้ำเข้าทุ่งบางระกำตามโครงการบางระกำโมเดล อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมใช้แก้มลิงธรรมชาติเก็บน้ำไว้ใช้แล้งหน้า ตามข้อสั่งการของนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม จ.สุโขทัย มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยน้ำที่ท่วมขังจะไหลลงสู่แม่น้ำยม ผ่าน อ.เมือง, อ.กงไกรลาศ จ.สฺโขทัย ก่อนจะไหลลงสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้แม่น้ำยมในเขต จ.พิษณุโลก ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ส่วนปริมาณน้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ผ่านทางแม่น้ำยมสายเก่า จะถูกผันเข้าแก้มลิงทุ่งบางระกำ ซึ่งขณะนี้มีการรับน้ำเข้าพื้นที่ไปแล้ว 202,608 ไร่ ปริมาณน้ำรวม 375.38 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 94 ของความจุ นอกจากนี้ ยังได้ชักน้ำเข้าคลองธรรมชาติ (ฝั่งขวาแม่น้ำยม) เข้าไปเก็บไว้ในคลองต่างๆ รวมไปถึงแก้มลิงขนาดใหญ่ ในเขต อ.บางระกำ ความจุเก็บกักรวม 30.74 ล้าน ลบ.ม ปัจจุบันเก็บกักน้ำได้แล้วรวม 18.70 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุ ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ทำการปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ในอัตราที่เหมาะสม พร้อมกับทดน้ำไว้บริเวณเหนือเขื่อนผาจุก และเขื่อนนเรศวร เพื่อหน่วงน้ำ เก็บกักน้ำ และลดระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ช่วยเพิ่มการระบายน้ำแม่น้ำยมลงแม่น้ำน่านได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เร่งการระบายน้ำแม่น้ำยมผ่านทางอาคารชลประทานต่างๆ รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณ สะพานบ้านวังเป็ด อ.บางระกำ 6 เครื่อง เพื่อเร่งการระบายน้ำไว้รองรับน้ำเหนือที่อาจจะลงมาเพิ่มเติมอีกในระยะต่อไป
จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง แม่น้ำยม, แม่น้ำยมสายเก่า, คลองเมม-คลองบางแก้ว ติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา