กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือน ฉบับที่ 19 วันที่ 5 ต.ค. 64 ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าจากลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามากขึ้น ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่
สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักพบว่าวันที่ 1 ตุลาคม ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,775 – 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปริมาณน้ำหลากสูงสุดจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกสูงสุดในอัตรา 762 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
คาดว่าในวันที่ 5 ตุลาคม ปริมาณน้ำจะไหลหลากรวมกันผ่าน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในเกณฑ์สูงสุด 3,050 – 3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทย ในช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคม แต่ช่วงเวลาดังกล่าว เกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง คาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร
พื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ประกอบด้วย
- จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
- กรุงเทพมหานคร บริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำล้นคันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้น บริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ