ตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด “ร้านนวด สปา” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับกระทบจากคำสั่งปิดของภาครัฐ ส่งผลให้รายได้เท่ากับศูนย์ทันที เพราะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ แถมยังไม่ได้รับการเยียวยาใด ๆ ผู้ประกอบการหลายราย จึงพยายามพยุงธุรกิจของตัวเอง ด้วยหลากหลายวิธี บางรายอยู่รอด แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจเลิกกิจการ
จนเมื่อเดือนกันยายน 2564 ผู้ประกอบการ “ร้านนวด สปา” เริ่มมีความหวังอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลประกาศคลายล็อกเป็นครั้งแรก โดยอนุญาตเฉพาะการนวดฝ่าเท้า ภายใต้มาตรการควบคุมโควิด-19 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ บางรายยังคงติดลบ เพราะใช้เงินทุนของตัวเองมาใช้จ่าย พยุงธุรกิจไว้
ล่าสุด ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนคลายให้ “ร้านนวด สปา” กลับมาเปิดบริการได้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา จึงทำให้ผู้ประกอบการ “ร้านนวด สปา” ยิ้มได้ และมีกำลังใจในการฮึดสู้กับโควิด-19 แม้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
มีค่า นิวส์ มีโอกาสคุยกับคุณพิทักษ์ โยธา หรือ คุณเอ๋ เจ้าของร้านจารวี สปา แอนด์ มาสสาจ Charawi Spa and Massage ที่เคยเปิดร้านนวดแผนไทย มานานถึง 5 ปี แต่พ่ายแพ้ให้กับโควิด-19 จนต้องปิดกิจการไป แต่คุณเอ๋ ก็นำบทเรียนครั้งนั้น มาปรับใช้กับการเปิดร้านใหม่ แม้หลังคลายล็อก รายได้ยังติดลบถึงหลักแสนบาท
ปิดร้านจารวี นวดแผนไทย ย่านเหม่งจ๋าย แล้วทำไมจึงตัดสินใจเปิดร้านใหม่อีกครั้ง
คุณเอ๋ เล่าว่า ปิดร้านจารวี นวดแผนไทย ย่านเหม่งจ๋าย เมื่อเดือนธันวาคม 2562 เพราะเจอโควิด-19 แบบไม่ทันตั้งตัว แม้จะพยายามพยุงธุรกิจ ด้วยการนำเงินส่วนอื่นมาใช้จ่าย เป็นค่าพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ รวมกว่า 4-5 แสนบาท แต่สุดท้ายธุรกิจก็ไม่สามารถไปได้ต่อได้
ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจเปิดร้านจารวี สปา แอนด์ มาสสาจ คุณเอ๋ บอกว่า เกิดจากยังรู้สึกผูกพันกับธุรกิจนี้ เพราะจากประสบการณ์บริหารธุรกิจในร้านแรก นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจการนวดสปา นวดเพื่อสุขภาพจำนวนมาก พร้อมมองว่า ในอนาคต ร้านนวด สปา ยังไปต่อได้
ตัดสินใจเปิดร้าน เมื่อต้นปี 2564 ด้วยเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยเซ้งกิจการต่อจากคลินิก ย่านทาวน์อินทาวน์ นำมารีโนเวทใหม่ ก่อนเปิดให้บริการ ในเดือนพฤษภาคม 2564
เปิดให้บริการเดือนแรก โควิด-19 แพร่ระบาด ถูกสั่งปิดอีกรอบ แต่รายจ่ายไม่เคยหยุด
คุณเอ๋ บอกว่า เหมือนถูกซ้ำเติมที่รอยแผลเดิม เพราะโดนคำสั่งปิดจากทางกรุงเทพมหานคร รายได้ในเดือนแรกจึงเป็นศูนย์ แต่รายจ่ายกลับไม่เคยหยุด มีทั้งค่าจ้างพนักงานกว่า 10 ชีวิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าเดือนละ 35,000 บาท ซึ่งคุณเอ๋ ก็ไม่ยอมแพ้ ขอฮึดสู้โควิดเต็มที่ ประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นไปให้ได้ เพราะมองว่า
“ธุรกิจร้านนวด สปา ยังไปได้อีกไกล เพราะคนไทยยังชื่นชอบการนวด การทำสปา นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เช่นกัน จึงคิดว่าอย่างไรก็ไม่ล่มสลายไปแน่นอน ขอแค่เราต้องอดทน ประคองธุรกิจไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้สถานการณ์ดีขึ้น แล้วธุรกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัว”
หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ ให้ร้านนวด สปา เปิดบริการได้เต็มรูปแบบ รายได้เป็นอย่างไร
หลังจากรัฐบาลคลายล็อกให้เปิดบริการลูกค้าได้ รายได้ก็ยังไม่กลับมา ติดลบอยู่ที่หลักแสนบาท อาจเป็นเพราะลูกค้ายังไม่มั่นใจ แม้ว่าที่ร้านจารวี สปา แอนด์ มาสสาจ จะให้บริการด้านการนวด และสปา ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งนวดแผนไทย นวดน้ำมัน ขัดผิว เป็นต้น พร้อมปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA และพนักงานผ่านการอบรมด้านการนวดมาอย่างดี รวมถึงฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบแล้ว 3 เข็ม
คุณเอ๋ จึงพยายามพยุงธุรกิจอย่างเต็มความสามารถ ด้วยการปรับกลยุทธ์ ดังนี้
1.ตกแต่งด้านหน้าเป็นคาเฟ่ ขายเครื่องดื่ม ขนม รวมถึงแฟรนไชส์ขนมจีบ ซาลาเปา ส่งแบบเดลิเวอรี่ เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในร้านจารวี สปา แอนด์ มาสสาจ ในช่วงที่ถูกสั่งปิด
2.จัดทำใบปลิวโฆษณาร้าน แจกตามบ้านเรือนและออฟฟิศบริเวณใกล้เคียง เพื่อดึงลูกค้าคนไทย
3.ยิงโปรโมทผ่าน Facebook และ Wechat เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ กรุ๊ปทัวร์
แม้จะอยู่ช่วงฟื้นฟูธุรกิจ แต่มีแพลนขยายสาขาเพิ่ม
คุณเอ๋ เล่าถึงแพลนขยายธุรกิจว่า ตอนนี้ได้ทำสัญญาเช่าสถานที่เอาไว้แล้วถึง 3 สาขา ทั้งสาขาจังหวัดสมุทรปราการ สาขารังสิต สาขาสุขุมวิท แต่ยังไม่ได้เข้าไปบริหารงาน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์โควิด-19 จึงขอรอดูไปอีกสักระยะ
อยากให้ฝากกำลังใจถึงผู้ประกอบการคนอื่น
“ผมเชื่อว่าในอีก 1-2 เดือน สถานการณ์จะต้องดีขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นร้านนวด สปา หรือ ธุรกิจอื่น ๆ อดทน ขอให้กำลังใจครับ”
ถ้าใครสนใจ อยากนวดแผนไทย หรือ สปาผิว ไปใช้บริการกันได้นะคะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ iber.me/Charawi-Massage