Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

รายงานพิเศษ : Thailand Pass (ไทยแลนด์พาส) ระบบลงทะเบียนเข้าไทย รองรับเปิดประเทศ

ช่วงสถานการ์ณโรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก หลายประเทศเพิ่มมาตรการและเอกสารในการขอเข้าประเทศให้มีความรัดกุมและปลอดภัยยิ่งขึ้น ประเทศไทยก็เช่นกัน ได้มีการกำหนดให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ต้องมีเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต, ใบรับรองแพทย์ COVID-19 และ COE (Certificate of Entry) หรือ หนังสือรับรองการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย

COE เป็นหนังสือที่ออกจากสถานกงสุลไทย เพื่ออนุญาตให้ผู้ที่ยื่นคำร้องเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อย่างถูกต้อง แต่การยื่นคำขอ COE อาจมีความยุ่งยากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะต้นสังกัดของหน่วยงานที่ต้องการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องยื่นคำขอไปที่สถานกงสุลในประเทศไทย เพื่อให้ได้หนังสือฉบับนี้ ใช้เวลาประมาน 30 วันทำการ และต้องยื่นก่อนเริ่มขอวีซ่า เพราะ COE ใช้งานได้เพียง 1 เดือน

แต่สำหรับชาวไทยในต่างแดน สามารถยื่นคำขอ COE ได้ทั้งทางออนไลน์ หรือ สถานกงสุลไทยใกล้ที่อยู่ตัวเอง ดังนั้น การขอ COE เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการคัดกรองคนเข้าประเทศอย่างปลอดภัย แต่เมื่อเดือนตุลาคม 2564 รัฐบาลไทยได้ประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รวมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ที่ชื่อว่า “Thailand Pass” มาใช้แทนการขอ COE มีค่า นิวส์ เลยจะพามารู้จักแพลตฟอร์มนี้กันค่ะ

Thailand Pass คืออะไร

Thailand Pass ไทยแลนด์พาส เป็นระบบ web-based  ที่กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) พัฒนาขึ้นใหม่ สำหรับให้ผู้เดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทย เฉพาะทางอากาศ เข้าไปลงทะเบียน กรอกข้อมูลและอัปโหลดเอกสารต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ https://tp.consular.go.th/ เพื่อขอรับเอกสารรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Thailand Pass QR code นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ณ ท่าอากาศยาน (สนามบิน) เมื่อเดินทางถึงไทย โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

เอกสารสำคัญใช้ลงทะเบียน Thailand Pass เพื่อให้รับ QR Code

1.หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต

2.ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด

3.ประกันโควิด ผู้เดินทางเข้าไทยต้องมีกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 ดอลลาร์ (คนไทยไม่ต้องใช้)

4.หลักฐานยืนยันการจองโรงแรม ASQ หรือยืนยันการจองโรงแรม SHA+

 5.สำเนาวีซ่าเข้าประเทศไทยหากจำเป็น กรณีได้รับการอนุมัติแล้วผู้ลงทะเบียนจะได้รับอีเมล QR Code หรือ Thailand Pass ID ที่จะใช้เมื่อเข้าสู่ประเทศไทย

ขั้นตอนลงทะเบียน Thailand Pass (สำหรับผู้มีสัญชาติไทย)

1. เข้าสู่เว็บไซต์ https://tp.consular.go.th

2. เลือก “คนไทย”

3. เลือก “ภาษาไทย”

4. เลือกรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศไทย มี 3 รูปแบบ ดังนี้

4.1 การเดินทางเข้าประเทศไทยโดยยกเว้นการกักตัว สำหรับผู้เดินทางจากประเทศ / พื้นที่ต้นทางที่กำหนด Exemption from Quarantine (Test and Go) แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน

4.1.1 ก่อนเดินทาง

เงื่อนไขผู้เดินทาง

– เดินทางมาจากประเทศหรือพื้นที่ต้นทางที่กำหนด 63 ประเทศ ดูรายชื่อประเทศที่นี่ >> https://mekhanews.com/2021/10/31/shine-here-update-the-list-of-countries-entering-thailand-without-detaining-from-46-to-63/ ซึ่งต้องพำนักอยู่ในประเทศ/พื้นที่ที่กำหนดต่อเนื่องกันอย่างน้อย 21 วัน ก่อนเดินทางมายังประเทศไทย

– คนไทยหรือต่างชาติที่เดินทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศที่กำหนด สามารถเดินทางกลับเข้าไทยได้โดยไม่ต้องอยู่ครบ 21 วัน

เงื่อนไขการฉีดวัคซีน

– ต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัคชีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนดอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง

– ผู้ที่เคยติดเชื้อ COVID-19  และได้รับการรักษาหายแล้ว ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าหายแล้วและหลักฐานการได้รับวัคซีน 1 เข็ม ภายใน 3 เดือนหลังจากการติดเชื้อฯ

– เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนและสามารถลงทะเบียนในระบ Thailand Pass พร้อมกันกับผู้ปกครอง โดยจะได้รับสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้ปกครอง

– บุคคลสัญชาติไทยไม่ต้องซื้อประกันภัย

– ต้องมีหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA+/ AQ 1 คืน

ลงทะเบียน Thailand Pass ใช้เอกสาร ดังนี้

– หนังสือเดินทาง

– เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน

–  หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA+/ AQ สำหรับ 1 คืน

– หลักฐานการชำระเงินค่าตรวจ RT-PCR ที่ไทย

การตรวจหาเชื้อ COVID-19 

ต้องมีผลการตรวจเชื้อฯ โดยวิธี RT -PCR ที่มีผลเป็นลบ ในระยะเวลา ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หรือ มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อฯ และหายแล้วไม่เกิน 3 เดือน

4.1.2 เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย

– ผ่านด่านควบคุมโรค และด่านตรวจคนเข้าเมือง และเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงแรมหรือสถานที่ที่กำหนด(ผู้เดินทางชำระคำตรวจฯ ล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้าไทย)

– รอผลตรวจ ณ ห้องพัก หากมีผลเป็นลบ ผู้เดินทางสามารถออกเดินทางทั่วประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัด

– ตรวจหาเชื้อ COVID-19  โดยวิธีการ ATK ในวันที่ 6-7 โดยสามารถรับชุดตรวจได้จากโรงแรม AQ / SHA+

4.1.3 เดินทางกลับตามมาตรการประเทศต้นทาง

4.2 The Blue Zone Sandbox (Sandbox Programme) การเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในประเทศไทย (สำหรับผู้เดินทางที่ฉีดวัดซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด)

4.2.1 ก่อนเดินทาง

เงื่อนไขผู้เดินทาง

– เดินทางมาได้จากทุกประเทศ / พื้นที่ และเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัดในประเทศไทย (พื้นที่สีฟ้า) ดูรายชื่อจังหวัดที่นี่ >> https://mekhanews.com/2021/10/22/the-government-gazette-published-the-order-of-prof-cancel-curfew-in-total-of-17-provinces-effective-31-oct-july-64/

2) เงื่อนไขการฉีดวัคซีน

– ต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัดซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด อย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง

– ต้องเป็นวัคนที่ขึ้นทะเบียนโดย อย. หรือที่กระทรวงสาธารณสุข หรือ WHO รับรอง

– เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนและสามารถลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass พร้อมกันกับผู้ปกครอง โดยจะได้รับสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้ปกครอง

– ผู้ที่เคยติดเชื้อ  COVID-19  และได้รับการรักษาหายแล้ว ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าหายแล้ว และหลักฐานการได้รับวัคซีน 1 เข็ม ภายใน 3 เดือนหลังจากการติดเชื้อฯ

– บุคคลสัญชาติไทยไม่ต้องซื้อประกันภัย

– ต้องมีหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA+ ในรูปแบบ SHABA Certificate สำหรับ 7 คืน

ลงทะเบียน Thailand Pass ใช้เอกสาร ดังนี้

– หนังสือเดินทาง

– เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน

– หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA+ (SHABA Certificate) ตลอดระยะเวลา 7 คืน

– หลักฐานการชำระเงินค่าตรวจ RT-PCR ที่ไทย 1 ครั้ง และ ATK 1 ครั้ง

การตรวจหาเชื้อ COVID-19 

ต้องมีผลการตรวจเชื้อฯ โดยวิธี RT -PCR ที่มีผลเป็นลบ ในระยะเวลา ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หรือ มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อฯ และหายแล้วไม่เกิน 3 เดือน

4.2.2 เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด (Sandbox)

– ผ่านด่านควบคุมโรค และด่านตรวจคนเข้าเมือง และเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่สนามบินหรือโรงแรมที่กำหนด

– รอผลตรวจ ณ ห้องพัก หากมีผลเป็นลบ ผู้เดินทางสามารถท่องเที่ยวในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวได้

– ระหว่างที่อยู่ในพื้นที่ Sandbox ไม่สามารถเดินทางข้ามพื้นที่ Sandbox ต่าง ๆ ได้ ต้องอยู่ในพื้นที่ Sandbox เฉพาะในจังหวัดที่โรงแรมตั้งอยู่เท่านั้น

4.2.3 เมื่อเดินทางออกจากพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด (Sandbox)

เมื่อพำนักในพื้นที่ Sandbox ครบ 7 วัน และมีผลตรวจหาเชื้อฯ ครั้งที่ 2 (ATK) แล้วจะได้รับ Release Form สำหรับเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยต่อไป

**หมายเหตุ : ผู้เดินทางเข้าพื้นที่ Sandbox ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางถึงไทย (ตรวจโดยวิธี RT-PCR) และครั้งที่ 2 (ตรวจโดยวิธี ATK ในวันที่ 6-7 ก่อนได้รับ Release Form เพื่อจะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ ผู้เดินทางต้องเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานนานาชาติที่กำหนดเท่านั้น ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ อู่ตะเภา สมุย และบุรีรัมย์ (สนามบินบุรีรัมย์สำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำเท่านั้น)

4.3 Happy Quarantine (Alternative Quarantine) การเดินทางเข้าประเทศไทยโดยเข้าพักในสถานที่กักกันทางเลือก

4.3.1 ก่อนเดินทาง

เงื่อนไข

– เดินทางเข้าประเทศโดยไม่เข้าข่ายเงื่อนไขใด ๆ

– ไม่ได้รับวัคซีน หรือ ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์

– -บุคคลสัญชาติไทยไม่ต้องซื้อประกันภัย

– เข้าพักใน AQ หรือโรงแรม 10 วัน และต้องมีหลักฐานชำระเงิน

ลงทะเบียน Thailand Pass ใช้เอกสาร ดังนี้

– หนังสือเดินทาง

– หลักฐานการจองโรงแรม และชำระเงิน AQ (สำหรับการพัก 10 คืน และรวมค่าธรรมเนียมการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง)

การตรวจหาเชื้อ COVID-19 

บุคคลสัญชาติไทยไม่ต้องมีผลตรวจเชื้อฯ ก่อนเดินทางเข้าไทย

4.3.2 เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 1 ผ่านด่านควบคุมโรค และด่านตรวจคนเข้าเมือง

ขั้นตอนที่ 2 เข้าพักที่โรงแรม AQ ที่จองไว้

5. กรอกข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทย

กรอกวัตถุประสงค์การเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ได้แก่ ท่องเที่ยว, ธุรกิจ, การศึกษา, สุขภาพ และอื่นๆ พร้อมเลือกประเทศต้นทาง เลือกสนามบินแรกที่คาดว่าจะเดินทางเข้าประเทศไทย ระบุวันเดินทางถึงไทย

6. กดยอมรับข้อตกลง

7. กรอกข้อมูลส่วนตัว และอัปโหลดหนังสือเดินทางที่มีรูปถ่ายและเห็นข้อมูลชัดเจน

ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินการสำหรับ Thailand Pass อยู่ระหว่าง 3 – 5 วัน ขึ้นอยู่กับสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลที่ยื่นคำร้อง ขอแนะนำให้เผื่อเวลายื่นลงทะเบียน Thailand pass อย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทาง หรือมากกว่านั้น

ขณะที่เรื่อง “เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน” (Vaccination Certification) กรมควบคุมโรคเป็นผู้อนุมัติผ่านระบบ Thailand Pass เบื้องต้น ไทยได้รับ Public Key Infrastructure (PKI) ของ vaccine certificate หรือ ระบบรหัสสาธารณะสำหรับใบรับรองวัคซีนจากประมาณ 30 ประเทศ เพื่อใช้เตรียมการสำหรับการตรวจสอบแล้ว ส่วนประเทศที่ไทยยังไม่ได้รับ PKI ยังคงตรวจสอบเอกสารรายบุคคล

**อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 20 มกราคม 2565 เห็นชอบการเปิดลงทะเบียนรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรผ่านระบบ Thailand Pass ในรูปแบบ Test and Go โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565  ซึ่งมีการปรับเงื่อนไขใหม่ ดังนี้  

1.อนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ

2.ปรับการตรวจหาเชื้อโดยใช้วิธี RT-PCR 2 ครั้ง โดยมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรก และในวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ (SHA++ AQ 0Q หรือ AHO)และ มีหลักฐานชำระเงินการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง

3.จัดระบบการตรวจสอบ และกำกับการเข้าที่พัก และตรวจหาเชื้อให้ครบ 2 ครั้ง โดยต้องอยู่รอในที่พัก/สถานที่ที่กำหนด จนได้รับผลการตรวจ

4. กำหนดระบบประกันให้ชัดเจน กรณีประกันไม่ครอบคลุม ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของ Hospital Hospitel/Hotet Isolation และกรณี HRC” เอง

5. กรณีเกิดการระบาดมากขึ้น หรือ สถานการณ์เปลี่ยนแปลง พิจารณาการรับผู้เดินทางแล้วปรับมาใช้ระบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox)

นอกจากนี้ ศบค. ยังมีมติให้ขยาย Sandbox ชลบุรี (อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่) และตราด (เกาะช้าง) โดยเปิดพื้นที่ให้เดินทางไปยังกลุ่มพื้นที่ จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต๋า) โดยในช่วง 7 วัน ต้องพำนักในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เริ่มลงทะเบียนเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 65 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยการปรับมาตรการเข้าประเทศ อีก 2 รูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 ดังนี้

1.รูปแบบ SANDBOX

1.1 พำนักในพื้นที่ Sandbox เป็นเวลา 7 วัน จึงสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้

1.2 พื้นที่ Sandbox ปัจจุบัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่าและเกาะพะงัน)

1.3 เงื่อนไขผู้เดินทาง

**ผู้เดินทางอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วนต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครอง (ยกเว้นกรณีอายุ 12-17 ปีที่ได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็มสามารถเดินทางโดยลําพังได้)

2.รูปแบบ ALTERNATIVE QUARANTINE (AQ)

2.1 กักตัว 7 วัน สําหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามข้อกําหนด

2.2 กักตัว 10 วันสําหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับไม่ครบตามข้อกำหนด

2.3 เงื่อนไขผู้เดินทาง

** กรณีผู้เดินทางอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางด้วยตัวเองจะต้องแนบเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน 1 เข็มเพื่อให้ได้รับสิทธิ์กักตัว 7 วัน

หมายเหตุ :

1.ผู้เดินทางที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 22 ธ.ค. 2564 รัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2
2.ผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2564 จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าตรวจ RT-PCR ด้วยตัวเอง

หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ >> ช่องทางให้ข้อมูล Thailand Pass https://mekhanews.com/2021/11/12/what-channels-are-there-to-provide-information-about-thailand-pass/  หรือ เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >> คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับระบบ Thailand Pass https://www.mfa.go.th/th/content/thailand-pass-faqs-thai?cate=5f2103f341eb326fd85bb31e

ที่มา : https://teachthailandsos.com/coe-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/

กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ  https://www.facebook.com/ThaiConsular

Exit mobile version