การนอนหลับเป็นปัจจัยที่สำคัญของการดำรงชีวิต ถ้าเรานอนหลับพักผ่อนได้ดีและเพียงพอจะส่งผลให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง สดชื่นแจ่มใส ไม่หงุดหงิดง่าย แต่ในบางคนที่พบว่าตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ เช่น นอนหลับได้ยาก นอนหลับไม่สนิท ตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น และง่วงนอนในเวลากลางวัน มีค่า นิวส์ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ดีกว่าค่ะ เพราะถ้าหากเราไม่รีบเข้ารับการรักษาอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในอนาคตได้
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคนอนไม่หลับ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ ส่วนมากมักจะเกิดในผู้หญิงและผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
1.ลักษณะของบุคคล เช่น นอนหลับไม่ลึก หูไว ตื่นง่าย หรือ มีความวิตกกังวลง่าย
2.ปัจจัยกระตุ้น เช่น การเปลี่ยนงาน การเสียชีวิตของคนที่รัก การหย่าร้าง
3.พฤติกรรมของผู้ป่วย เช่น การนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน ๆ การดื่มกาแฟช่วงเวลาเย็นหรือก่อนนอน นอนกลางวันหลังบ่ายสามโมง เป็นต้น
ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการของการนอนหลับของตัวเองได้ เช่น
1.นอนหลับได้ยาก
2.นอนหลับไม่ต่อเนื่อง
3.นอนหลับไม่สนิท
4.ตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น
5.มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
6.สมาธิลดลง ความสนใจและความจำลดลง
7.อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย
8.เกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวัน
อาการเหล่านี้ บ่งชี้ได้ว่า ผู้ป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย เพิ่มโอกาสการเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า และยังสามารถเพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจวาย ความดันโลหิตสูง โรคไขมันสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และอาจเพิ่มอัตราการเสียชีวิต
นอกจากนี้ โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง ยังเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถและอุบัติเหตุจากการทำงานได้ ดังนั้น การนอนหลับจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพ หากพบว่ามีอาการนอนไม่หลับหรือสงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคนอนไม่หลับ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านการนอนหลับ เพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างถูกต้อง
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายและลดการอุบัติเหตุอันตรายต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะคะ