กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย จึงจัดทำแอปพลิเคชัน “DLT Driver” มาใช้ในการติดตามการทำงานของรถ เพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียนตั้งเเต่เดือนพฤศจิกายน 2560 หรือ TAXI OK ได้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและการส่งข้อมูลของอุปกรณ์ GPS
ทั้งนี้ เจ้าของรถ หรือ ผู้ประกอบการรถ TAXI OK ที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครฯ สามารถจองคิวเพื่อเข้ามาดำเนินการที่สำนักการขนส่งผู้โดยสาร อาคาร 3 ชั้น 2 กรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับรถ Taxi OK ที่จดทะเบียนในส่วนภูมิภาค สามารถเดินทางมายื่นความประสงค์ได้ที่กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดที่รถนั้นจดทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานประกอบการลงทะเบียน ดังนี้
1.กรณีที่จดทะเบียนในนามบุคคลธรรมดา ได้แก่
1.1 บัตรประจำตัวประชาชน
1.2 สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2.กรณีที่จดทะเบียนในนามนิติบุคคล ได้แก่
2.1 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจ
2.2 สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
2.3 สำเนาใบคู่มือจดทะเบียน
3.สำหรับการลงทะเบียนผู้ขับรถ ได้แก่
3.1 บัตรประจำตัวประชาชน
3.2 ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ หรือ ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1 – 4 ที่ยังไม่สิ้นอายุ
ขั้นตอนดำเนินการ
1.เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบเอกสาร บันทึกข้อมูล แนะนำขั้นตอนวิธีการติดตั้งและใช้งานแอปพลิเคชัน DLT Driver ในอุปกรณ์สื่อสารของผู้ขับรถ
2.ผู้ขับรถนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ เพื่อตรวจสอบการทำงานของแอปพลิเคชัน ซึ่งจะต้องส่งข้อมูล Real-time เข้าที่ศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก หากข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน ผู้ขับรถก็จะสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน DLT Driver ได้ทันที
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้งานแอปพลิเคชัน DLT Driver มีหน้าที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันทุกครั้งที่ขับรถ เพื่อให้กรมการขนส่งทางบกสามารถติดตาม ตรวจสอบการให้บริการได้เช่นเดียวกันกับระบบ GPS ซึ่งถือเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มแท็กซี่
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้ขับรถแท็กซี่รายใดไม่เปิดใช้งานแอปพลิเคชัน เพื่อติดตามการเดินรถ หรือ มีการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าไม่มีการใช้งานแอปพลิเคชัน จะมีความผิด ดังนี้
1.ความผิดฐานไม่ใช้ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
2.บันทึกประวัติการกระทำความผิด
3.ตัดแต้มใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะตามมาตรการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
