ร้านน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ หรือ ร้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Healthy Drink) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนให้ความสนใจลงทุน เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์สุขภาพ ที่ประชาชนในยุคปัจจุบันหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และหากสร้างจุดขายที่โดดเด่น อาทิ ทำในรูปแบบที่ทันสมัย เน้นใช้วัตถุดิบสดใหม่ ก็ยิ่งได้รับความนิยม อาจทำให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด มีทิศทางธุรกิจที่สดใสอย่างต่อเนื่อง
มีค่า นิวส์ มีโอกาสคุยกับคุณธงชัย ทองมนต์ หรือ คุณเบิร์ด เจ้าของแบรนด์ MR.Seed ร้านน้ำผลไม้และธัญพืชปั่นที่สร้างจุดขายด้วยการหยิบเอาธัญพืชและผลไม้ที่มีประโยชน์หลายชนิดมาปั่นรวมกันตามสูตรที่คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำให้รสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลูกค้าชื่นชอบ และสร้างรายได้เป็นที่น่าพอใจ
คุณเบิร์ด เล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจนี้ เกิดจากความชอบดื่มน้ำผลไม้ปั่น ประกอบกับมองเห็นโอกาสของเทรนด์สุขภาพที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมต่อเนื่อง จึงศึกษาเรียนรู้วัตถุดิบ คิดค้นสูตรที่แตกต่างจากคู่แข่งมากกว่า 20 สูตร เปิดขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ก่อนจะขยายเช่าหน้าร้านในเดือนธันวาคม 2564 โดยมีแนวคิด คือ ลูกค้าจะต้องดื่มแล้วสดชื่น ได้ประโยชน์ และอิ่มท้องไปพร้อมกัน
แม้แบรนด์ MR.Seed จะเปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี จนมีรายได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งคุณเบิร์ด เผยเคล็ดลับส่วนตัวว่า ทุกอย่างต้องสด ใหม่ สะอาด รสชาติคงที่ รวมถึงการบริการที่จริงใจต่อลูกค้า ถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ MR.Seed
“จุดเด่นของเราคือสินค้าต้องมีคุณภาพ สะอาด รสชาติคงที่ การบริการต้องจริงใจต่อลูกค้า ไม่นำของไม่ดีมาทำเมนูให้ลูกค้าเด็ดขาด แม้ยอดขายไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ว่าลูกค้าต้องได้ทานของที่ดีที่สุด”
ส่วนกลยุทธ์เพิ่มเติม ที่ทำให้แบรนด์ MR.Seed กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น คุณเบิร์ด บอกว่า มี 3 ข้อ ดังนี้
1.ขายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ควบคู่กับการขายหน้าร้าน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น
2.จัดโปรโมชันที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า เช่น ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
3.แจกใบปลิว หรือใช้สื่อออนไลน์แนะนำร้าน พร้อมบริการส่งฟรีในละแวกใกล้เคียงกับหน้าร้าน
สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจร้านน้ำปั้นเพื่อสุขภาพ คุณเบิร์ดแนะนำว่า ควรเริ่มจากความชอบ แล้วค่อย ๆ ลงทุนทีละเล็กน้อยก่อน เมื่อมีกำไรจึงค่อยลงทุนขยับขยายเพิ่มเติม โดยส่วนตัวคุณเบิร์ด ใช้เงินลงทุนรวม 30,000-40,000 หมื่นบาท ประกอบด้วย
1.วัตถุดิบ เช่น ผลไม้ ธัญพืช รวมประมาณ 2,000-3,000 พันบาท
2.อุปกรณ์ เช่น เครื่องปั่น ตู้แช่ ลังโฟม เก็บวัตถุดิบ เป็นต้น
3.เคาน์เตอร์ เก้าอี้ โต๊ะ ของตกแต่งร้าน
นอกจากนี้ มีค่าเช่าสถานที่หน้าร้านอีกเดือนละ 9,000 บาท ในส่วนนี้ คุณเบิร์ดแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรเลือกหน้าร้านให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด เช่น กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ กลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงควรจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับลูกค้าด้วย อาทิ ที่จอดรถ วินจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นต้น
ส่วนทิศทางแบรนด์ MR.Seed ในปี 2565 คุณเบิร์ดเตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์ เพื่อให้ผู้ที่อยากลงทุนธุรกิจน้ำปั่น MR.Seed ได้ต่อยอดมีอาชีพเป็นของตัวเอง ในราคาที่สามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว และยังวางแผนขยายสาขาเพิ่มเติมด้วย โดยจะทำในลักษณะตั้งขายในชุมชน หรือตลาดนัด
คุณเบิร์ด ทิ้งท้ายแง่คิดประกอบธุรกิจในช่วงโควิด-19 ด้วยว่า “หากเราทำธุรกิจช่วงโควิด อย่าท้อแท้หมดกำลังใจ ขอให้ใช้ความอดทน ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ปัญหา เพราะการทำธุรกิจ ย่อมมีวันที่ยอดขายดี และวันที่ยอดขายไม่ดี”
ผู้ที่อยากลองชิมน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ MR.Seed ดูเมนูได้ที่ https://www.facebook.com/Mr.Seedhealthy/ หรือจะแวะไปที่หน้าร้าน “MR.Seed น้ำปั่นเพื่อคนรักสุขภาพ”15/6 รามอินทรา 40 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230 ข้างปั๊มน้ำมันพีที (ซอยวัดนวลจันทร์) กรุงเทพมหานคร 12024 ได้นะคะ