Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ครม.เคาะ! ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ปี 2565 จำนวน 20 ล้านคน สร้างโอกาสเข้าถึงบริการแห่งรัฐอย่างครบวงจร

มาแล้ว! ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 20 ล้านคน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่  1 กุมภาพันธ์ 2565 เห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และเห็นชอบร่างประกาศ คกก.ฯ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการฯ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มตกหล่นให้สามารถเข้าถึงโครงการฯ มีค่า นิวส์ จึงสรุปมาให้เข้าใจกันง่าย ๆ  ดังนี้

กลุ่มเป้าหมาย

1.ประชาชนประมาณ 20 ล้านคน

– ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เดิม

– ผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิรายใหม่

คาดสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65

มีกรอบวงเงิน 564.455 ล้านบาท เบิกจ่ายจากงบฯ ของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว ประกอบด้วย

1.ค่าจ้างเหมาบริการระบบลงทะเบียน และการยืนยันตัวตน 164.274 ล้านบาท

2.ค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียน ของหน่วยรับลงทะเบียน 400.181 ล้านบาท

สำหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน มีดังนี้

– ผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

– ต้องไม่เป็นภิกษุ ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์

– ต้องไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐ

– รายได้ของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี

– รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี

– ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือ มีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ เช่น  วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้สำหรับยานพาหนะ รวมไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

– ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ได้บัตรสวัสดิการฯ และปัญหาผู้มีบัตรฯ ที่ไม่ควรได้รับสิทธิ ทั้งนี้ จะมีการเปิดรับลงทะเบียน ตามโครงการฯ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจะมีการดำเนินการตรวจสอบ คุณสมบัติและตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

สำหรับผู้ได้รับสิทธิจากโครงการฯ ปี 2565 จะใช้บัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรสวัสดิการฯ เนื่องจากบัตรสวัสดิการฯ ที่ได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือน ต.ค. 2560 มีอายุการใช้งาน 5 ปี และจะหมดอายุในเดือน ก.ย. 2565 ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิตบัตรสวัสดิการฯ ใหม่ ประมาณ 1,258 ล้านบาท อีกทั้งลดปัญหา เรื่องการสวมสิทธิบัตรประจำตัวประชาชน หรือ การนำบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลอื่นไปใช้สิทธิแทน และช่วยลดการทุจริต เช่น กรณีร้านค้าเก็บบัตรสวัสดิการฯ ไว้เอง เป็นต้น

โครงการลงทะเบียนฯ ปี 65 มีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการดำเนินการบางประการที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มเติมเงื่อนไข เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน และการดำเนินการให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ในปัจจุบันไม่สามารถสะท้อนข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง จึงจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนรอบใหม่เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการแห่งรัฐอย่างครบวงจร

Exit mobile version