Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

How To ดูแลสุขภาพคนรักรับวาเลนไทน์ ยุคโควิด

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตรงกับวันวาเลนไทน์ เป็นวันพิเศษในการแสดงความรักต่อคนรัก และมีการแบ่งปันสื่อรักแทนใจ เช่น มอบดอกกุหลาบ มอบช็อกโกแลต ให้แก่กัน แต่สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุคปัจจุบัน หากต้องการสื่อความรักแบบไทย ดูแลหัวใจคนรัก ในยุค new normal มีค่า นิวส์ มีมาแนะนำทุกคนค่ะ รับรองว่า ทำได้ง่าย ประหยัด และเหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

สื่อความรักด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพคนรัก

1.ปรุงอาหารสุขภาพบำรุงหัวใจแก่คนรัก

เน้นผักสด ผลไม้ สมุนไพร เช่น กระเทียมที่ช่วยลดไขมัน ขิง พริกที่มีรสเผ็ดร้อน, ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด น้ำใบเตยบำรุงหัวใจทำให้สดชื่น นำสมุนไพรเหล่านี้เตรียมอาหารสุขภาพให้คนรักไปรับประทานกลางวันที่ทำงาน หรือ ช่วง Work From Home เป็นการมอบอาหารสื่อรักและห่วงใยแก่คนรักได้อย่างดี 

2.มอบยาสมุนไพรให้กับคนรัก 

ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรมีรูปแบบที่ทันสมัย และสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยทุกเพศ ทุกวัย การให้นี้จึงเป็นเสมือนสื่อรัก ที่ต้องการดูแลบำรุงหัวใจของคนรักได้อย่างดี เช่น ยาหอม ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรที่หลายคนอาจเข้าใจในสรรพคุณแก้ลมวิงเวียนศีรษะ

หรือ จะเป็น ชาเบญจเกสร เป็นตำรับยาสมุนไพรที่ประกอบด้วยดอกมะลิ  ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี และเกสรบัวหลวง มีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ลมวิงเวียน ตำรับตรีผลา ประกอบด้วยสมอพิเภก สมอไทย และมะขามป้อม มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย

3.ด้านจิตใจ สามารถดูแลหัวใจของคนรักร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและอิ่มใจ เช่น

ทำสมาธิ สวดมนต์  ทำบุญออนไลน์ ซึ่งเป็นการพัฒนาสุขภาพใจที่ดี ช่วยทำให้เกิดการคิดดี ทำดี ตระหนักรู้  มีสติรู้ ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ระหว่างคู่รัก และช่วยให้ปลอดภัยในสถานการ์การระบาดของโรคโควิด-19  อีกด้วย

ทั้งนี้ คู่รักควรตระหนักในความปลอดภัยของตัวเราและคนที่เรารัก ดังนั้น กิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงยังคงต้องตระหนัก และเน้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด

ที่มา : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก https://www.facebook.com/dtam.moph                      

Exit mobile version