กระแส กัญชา กัญชง ในประเทศไทย เริ่มคึกคักมาตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยิ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากรัฐบาลประกาศปลดล็อคให้สามารถขออนุญาตปลูก ผลิต ครอบครอง และจำหน่ายได้ ด้วยสรรพคุณทางอาหารและยา ประกอบกับความต้องการในตลาดโลก ที่มีแนวโน้มเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้มีการนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม
แต่ปัจจุบันนับว่ายังเป็นเรื่องใหม่และเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไม่น้อย จึงต้องศึกษาทั้งรายละเอียดการนำมาใช้ การขอใบอนุญาตกับทางสำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.) ที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทุกขั้นตอน หรือ แม้กระทั่งการวางแผน กำหนดกลยุทธ์ทางตลาด เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และดำเนินต่อไปได้ในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด
มีค่า นิวส์ มีโอกาสคุยกับคุณแพร่เพชร ศรีอ่อน หรือ คุณแพท เจ้าของบริษัท พี.เอ.ที.ฟาซาด แอนด์ แอสโซ ซิเอทส์ จำกัด และบริษัท เลอ ออแกนิค (ประเทศไทย) จำกัด ที่เริ่มต้นทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ เซรั่มกัญชง Le’Perfect เพราะมองเห็นโอกาสจากกระแสกัญชา กัญชง ในปี 2564 ประกอบกับมีโรงงานผลิตสินค้าด้านนี้ ติดต่อชวนให้ลงทุน
ด้วยความที่คุณแพท ชอบด้านความสวยความงามอยู่แล้ว และมีมุมมองแบบนักธุรกิจที่ไม่ได้อยากเป็นแค่เจ้าของกิจการเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ คือ รับออกแบบ รับเหมาก่อสร้าง แตกแขนงออกไปธุรกิจอื่น ๆ โดยไม่ลังเล ตัดสินใจลงทุน เพราะมองว่าธุรกิจนี้ มีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต พร้อมทั้งคิดว่าการทำธุรกิจหลายทาง ย่อมดีกว่าการทำธุรกิจทางเดียว และยังเป็นทางรอดในยุคโควิด-19 ด้วย
สำหรับขั้นตอนการลงทุน คุณแพทเริ่มต้น ดังต่อไปนี้
1. ตกลงราคาลงทุนให้เหมาะสม เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
2. ศึกษารายละเอียด สรรพคุณของกัญชง พร้อมข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินหน้าผลิตสินค้า
3. ขอใบอนุญาตจากสำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง ก่อนเจ้าอื่น ๆ
เมื่อได้รับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว คุณแพท อธิบายถึงขั้นตอนต่อไปว่า จะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย พร้อมศึกษาคู่แข่งว่าราคาเป็นอย่างไร เพื่อจะได้วางแผลกลยุทธ์การขายได้ตรงจุด หาช่องว่างทางการตลาด นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก็สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับคุณแพท เริ่มจากไม่ได้จ้างพรีเซนเตอร์ แต่ทำการตลาดโดยเริ่มจากการสร้าง identity ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่มียอดผู้ติดตามจำนวนมาก
วิธีการ คือ การกำหนด Content สินค้าเป็น “เซรั่มสายเขียว” จากนั้นคุณแพทจึงแต่งกายด้วยสีเขียวถ่ายภาพคู่กับสินค้าบ่อย ๆ รวมทั้งเสริมข้อมูลสินค้า เช่น ความรู้เรื่องสารสกัด CBD ในกัญชง ที่นำมาใช้ผลิตสินค้า เพื่อให้คนจดจำได้ว่า จำหน่ายสินค้าอะไร
เมื่อแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก คุณแพทจึงต่อยอดเปิดเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/เซรั่มกัญชง-เซรั่มสายเขียว-by-LePerfect-112805147835296 เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า โดยได้รับคำปรึกษาจากรุ่นพี่ ช่วยวางกลยุทธ์โปรโมทเพจเฟซบุ๊ก
คุณแพท เปิดเผยว่า หลังจากทำการตลาดตามกลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ยอดขาย เซรั่มกัญชง Le’Perfect เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้สูงหลายแสนบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี นำไปสู่การเปิดระบบตัวแทนจำหน่ายเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา
ซึ่งคุณแพท คิดว่าจุดเด่นของแบรนด์ อยู่ที่ตัวสินค้า คือ สรรพคุณของกัญชงที่ดีมากอยู่แล้ว ประกอบกับการคัดสรรวัตถุดิบเสริมเพิ่มเติม เช่น ผสมตัวช่วยเรื่อง ความชุ่มชื้น หรือ ส่วนผสมสำหรับผิวแพ้ง่าย ก็ทำให้เซรั่มกัญชง Le’Perfect กลายเป็นที่ยอมรับของลูกค้าได้ไม่ยาก
นอกจากนี้ คุณแพท ยังเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจอย่างไรให้รอดในยุคที่โควิด-19 แพร่ระบาด คือ การเรียนรู้ อย่างบ้าคลั่ง ตั้งใจทำงานทุกวันอย่างเต็มที่
“เราจะมีทฤษฎี 100 วัน คือ การเรียนรู้อย่างบ้าคลั่ง ทำธุรกิจแบบไม่หยุด จริงจัง ไม่ทำเล่น ๆ เพราะเชื่อว่าถ้าเราเต็มที่ ยังไงก็ไปรอด ไปต่อได้แน่นอน”
ขณะเดียวกัน หลักการสำคัญที่ควรนึกถึงอีก 4 ข้อ คือ
1. หา Passion+Connection เพื่อสร้างให้เกิด Business แล้วจากนั้นหาทางสร้าง Conection ให้เกิดเป็น Releation เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
2. มองความเสี่ยงของการลงทุนให้เป็น โดยเน้นลงทุนให้น้อยที่สุด
3. ก้าวไปทีละขั้นตอน อย่าก้าวเร็วเกินไป ค่อย ๆ พัฒนาต่อยอดไปเรื่อย ๆ หาวิธี “ทำน้อยแต่ได้มาก”
4. เน้นทำการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางสำคัญในยุคนี้
ส่วนผู้ที่อยากลงทุนเครื่องสำอางกัญชา คุณแพท ให้ข้อแนะนำไว้ 4 ข้อ ประกอบด้วย
1. ควรรู้ว่าตัวคุณเป็นอย่างไร (When you know Who you are) หาตัวเองให้เจอก่อน แล้วคิดทบทวนว่า ชอบสิ่งนั้นจริงหรือไม่ อยากทำจริงหรือไม่ เพราะหากไม่ได้ชอบ หรือ อยากทำสิ่งนั้น เวลาที่เจออุปสรรค จะทำให้รู้สึกล้า ท้อแท้ ทำไม่สำเร็จ
2. จากนั้นเมื่อพิจารณาแล้วว่า ชอบสิ่งนั้นจริง ๆ ใช้ Passion+Connection ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ พิจารณาเงินทุนที่มีอยู่ และเริ่มติดต่อโรงงานที่ไว้ใจได้ อ่านสัญญาให้รอบคอบถี่ถ้วน สิ่งสำคัญ คือ โรงงานจะต้องช่วยรักษาความลับของสูตรสินค้าให้กับเรา แล้วจึงตกลงราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม
3. ศึกษาข้อกฎหมาย ข้อดี ข้อเสีย ของสินค้าที่จะผลิต เพราะการรู้ข้อกฎหมายช่วยสร้างความได้เปรียบในธุรกิจ
4. ศึกษาการตลาด สร้างตัวตนของแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง หาช่องว่างทางการตลาดให้เจอ
ในปี 2565 คุณแพท เตรียมวางระบบตัวแทนจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งคิดต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม อย่างสเปรย์น้ำแร่ล๊อคเมคอัพ และครีมอาบน้ำ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจด้วย
คุณแพท ยังฝากกำลังใจถึงผู้ประกอบการที่กำลังรู้สึกท้อแท้ “อยากให้เปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นกำลังใจ อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร เพราะถ้าเจอปัญหา จะทำให้คิดหาทางออกไม่ได้ แต่พยายามเป็นตัวเองให้มากที่สุด พัฒนาในแบบของตัวเอง แล้วธุรกิจจะไปต่อได้เอง”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ที่คิดลงทุนธุรกิจเครื่องสำอาง หรือ ผลิตภัณฑ์จากกัญชง จะต้องทราบ คือ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย ซึ่งมีค่า นิวส์ สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.) สรุปได้ดังนี้
1. กัญชงที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมต้องได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาสกัด แต่สามารถส่งออกเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศได้
2.การขออนุญาตปลูกจะต้องมีผู้รับซื้อที่ชัดเจน ไม่อนุญาตให้ปลูกโดยที่ยังไม่มีแหล่งรับซื้อ ไม่มีแผนการผลิต หรือแผนการใช้ประโยชน์
3. คุณภาพและมาตรฐานต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะสาร THC และ CBD ที่ต้อง ไม่เกิน 0.2% ของน้ำหนักแห้ง หรือ ขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ที่นำกัญชงไปผสม
4. กฎหมายรองรับในการนำกัญชงมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีการประกาศกฎหมาย อนุญาตให้ใช้เมล็ด น้ำมัน และสารสกัดจากเมล็ดกัญชงในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางได้ ขณะที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ อยู่ระหว่างการอนุมัติหรือพิจารณาออกประกาศเพิ่มเติม ศึกษาข้อมูลที่ >> https://mnfda.fda.moph.go.th/narcotic/?cat=14
สำหรับขั้นตอนการขออนุญาตผลิต จำหน่าย มีไว้ครอบครอง กัญชง สามารถศึกษาจากคู่มือเพิ่มเติมได้ที่ >> https://online.fliphtml5.com/hvpvl/nghw/#p=1