Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

พบผู้ป่วยฝีดาษลิง 1 คน มาต่อเครื่องที่ไทย 2 ชั่วโมง ก่อนบินไปออสเตรเลีย ทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 12 คนกระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างติดตามอาการ

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง (Monkeypox) ในประเทศไทย ประจำวันที่ 30 พ.ค. 65 มีค่า นิวส์ สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้ 

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

“จากการเฝ้าระวังในด่านควบคุมโรค ระหว่างประเทศ พบ 1 คน ที่บินมาจากประเทศทางยุโรป มาต่อเครื่องในไทย 2 ชั่วโมง เพื่อไปออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อไปถึงแล้ว พบว่า มีอาการ ตรวจเชื้อแล้วเป็นผู้ป่วยยืนยัน ผู้ป่วยรายดังกล่าว ระหว่างต่อเครื่องยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิด ยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย แต่เรายังต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือ ผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ตอนนี้ผ่านมา 7 วันแล้ว ยังไม่พบผู้ที่มีอาการ เราจึงต้องติดตามให้ครบ 21 วัน”

ทั้งนี้ การประเมินความเสี่ยงของไทย ต่อโรคฝีดาษลิง พบว่า ความเสี่ยงสำคัญเป็นกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศ อาจมีประวัติเข้าร่วมกิจกรรมที่พบผู้ป่วยยืนยัน หรือเดินทางมาจากประเทศเสี่ยงสูงที่พบการระบาดในประเทศแล้ว ฉะนั้นเราต้องเฝ้าระวังในกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศดังกล่าว ส่วนคำแนะนำคนไทย ที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมเสี่ยงในต่างประเทศ ยังต้องเว้นระยะห่าง ล้างมือให้มากเพียงพอ

สำหรับการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในผู้ป่วยที่มาต่อเครื่องบินในประเทศไทย นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีอาการ และมาต่อเครื่องบินในไทยไม่นาน ซึ่งระหว่างนั้นไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับใคร มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอด ดังนั้น ผู้สัมผัสใกล้ชิดก็จะไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งตอนนี้ไม่มีอาการใด ๆ อย่างไรก็ตาม โรคนี้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติ หากมีอาการให้รีบแจ้ง แต่หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องแยกกัก 21 วันที่บ้าน

ส่วนการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าข่ายอาการ 5 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์ 3 ราย เดินทางเข้าไทยเพื่อมาเรียนมวยไทยใน จ.ภูเก็ต และพบว่าทั้ง 3 คน มีอาการเข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง มีตุ่มนูนใส ตามลำตัว แต่เมื่อนำไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR จาก 2 ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิกโรงพยาบาลจุฬาฯ พบผลยืนยันว่าเป็นโรคเริมเท่านั้น

ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยฝีดาษวานรที่ไอร์แลนด์ แต่เมื่ออยู่ในประเทศไทยมีการคลุกคลีใกล้ชิดกันตลอดเวลา ใช้อุปกรณ์ชกมวยและกระสอบทรายร่วมกัน เมื่ออาการไม่ดีขึ้น วันที่ 25 พฤษภาคมจึงมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนเอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อพบประวัติเข้าได้กับโรคฝีดาษวานรจึงรายงานมายังกรมควบคุมโรคเพื่อสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างส่งตรวจ พร้อมทั้งส่งมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร

ส่วนผลการสอบสวนโรคในสถานที่เสี่ยง พบผู้ป่วยชาวต่างชาติอีก 2 ราย จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์โรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ซึ่งผลการตรวจทั้ง 5 ราย พบว่าไม่ใช่โรคฝีดาษวานร แต่เป็นเชื้อเริม ทั้งหมดได้รับการรักษาด้วยยาอะไซโคลเวียร์ ขณะนี้แผลแห้งแล้ว

ทั้งนี้ สถานที่ออกกำลังกายที่มีการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน ต้องเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ จะช่วยป้องกันทั้งโรคโควิดและโรคอื่นๆ ส่วนผู้ที่ไปร่วมงานเฟสติวัลในต่างประเทศ หรือร่วมกิจกรรมที่มีความเสี่ยง หากมีอาการขอให้มาพบแพทย์และแจ้งประวัติร่วมกิจกรรม

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคฝีดาษวานร ในต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อ 494 คน โดยการระบาดยังคงเป็นการติดต่อจากคนสู่คน และส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อเป็นเพศชาย และในชายรักร่วมเพศกับผู้ชาย  นอกจากนี้อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ ผื่น ตุ่มหนอง ไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต และปวดกล้ามเนื้อ

ที่มา : https://www.facebook.com/fanmoph/videos/377833400987740

Exit mobile version