เชื่อว่าคนส่วนใหญ่หากพูดถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คงจะนึกถึงแค่โรคเอดส์ แต่หารู้ไม่ว่า ความจริงแล้ว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่าที่คิด และมีโอกาสติดต่อง่ายมาก หากยังไม่สนใจการดูแลตัวเองให้ดี ทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ มีค่า นิวส์ เลยไปรวบรวมโรค และพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้มากยิ่งขึ้น
โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มักพบได้ มีดังต่อไปนี้
1. โรคหนองใน และโรคหนองในเทียม (Gonorrhea and Chlamydia) อาการที่พบได้
- ผู้ชาย : มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ มักจะแสบขัดเมื่อปัสสาวะ
- ผู้หญิง : มีของเหลวออกมาจากช่องคลอดมากผิดปกติ มักจะแสบขัดเมื่อปัสสาวะ
2. โรคแผลริมอ่อน (Chancroid) อาการที่พบได้
- ผู้ชายและผู้หญิง จะมีอาการคล้ายกัน แต่ผู้หญิงมักพบจำนวนแผลที่มากกว่าผู้ชาย โดยมีตุ่มแดงขนาดเล็กที่อวัยวะเพศ หลังจากตุ่มแดงหาย จะกลายเป็นแผล ซึ่งแผลจะค่อนข้างเจ็บมาก แต่ขอบแผลจะนุ่ม ขอบไม่เรียบ และขรุขระ
3. โรคเริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes) อาการที่พบได้
- จะมีตุ่มน้ำใสที่บริเวณอวัยวะเพศ และเมื่อตุ่มนี้แตก จะกลายเป็นแผล ซึ่งค่อนข้างเจ็บมาก
4. โรคซิฟิลิส (Syphilis) อาการที่พบได้
- ผู้ที่ได้รับเชื้อครั้งแรก จะมีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ โดยแผลจะมีขอบแข็ง และไม่ปวด โดยซิฟิลิสจะมี 4 ระยะ และอาการแตกต่างกันออกไป หากไม่รีบรักษาโดยเร็ว มีโอกาสเสียชีวิตได้ โดยอาการ มีดังนี้
– ระยะที่ 1 มีตุ่มเล็ก ๆ แตกเป็นแผลมีน้ำเหลือง
– ระยะที่ 2 มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือทั่วร่างกาย
– ระยะที่ 3 ระยะแฝง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการแสดงใดๆ
– ระยะที่ 4 เชื้อเข้าไปทำลายระบบสมอง และอวัยวะต่างๆ
5. โรคหูดหงอนไก่ (Genital warts) อาการที่พบได้
- จะมีติ่งเนื้อขรุขระคล้ายหงอนไก่ บางชนิดไม่เป็นติ่งแต่มีลักษณะแบนราบ ผิวขรุขระคล้ายดอกกะหล่ำ และอาจมีอาการปัสสาวะแสบ โดยในผู้หญิง อาจมีตกขาวร่วมด้วยได้
วิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ใส่ถุงยางอนามัย โดยเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่มีเครื่องหมาย อย. และตรวจดูวันหมดอายุก่อนใช้
- ไม่เปลี่ยนคู่นอน
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน
- ตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี
- หมั่นสังเกตคู่นอนอย่างสม่ำเสมอ ว่ามีอาการต่าง ๆ ดังโรคข้างต้นหรือไม่
เรียบเรียงโดย เภสัชกร ณัฐพล พานทองคำ
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และโรงพยาบาลศิครินทร์