Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

สิทธิเบิกจ่ายตรง ค่ายารักษา “มะเร็งต่อมลูกหมาก” ระยะแพร่กระจาย กรมบัญชีกลางปรับเกณฑ์ใหม่ อัพเดทให้ที่นี่!

กรมบัญชีกลางดำเนินงานภายใต้คณะทำงานพิจารณาแนวทางปรับปรุงและพัฒนาระบบเบิกจ่ายค่ายากลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบด้วย

1.ผู้แทนมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย

2.ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็ง

3.เภสัชกรเชี่ยวชาญ

มีมติเห็นชอบ ให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ระยะแพร่กระจาย โดยมีรายละเอียด มีค่า นิวส์ สรุปได้ดังนี้

1. ปรับปรุงและขยายเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายารักษาโรคมะเร็งที่ต้องลงทะเบียนเพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายในระบบ OCPA เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น ดังนี้

1.1 ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายา Abiraterone/Enzalutamide สำหรับการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจาย ให้ใช้ได้โดยไม่ต้องผ่านการใช้ยา antiandrogen มาก่อน รวมทั้งให้ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยา Abiraterone ขนาด 250 มิลลิกรัมต่อวัน ตามข้อ 1.2 และไม่ตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดก่อนอย่างน้อย 1 ขนาน

1.2 ขยายเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายา Abiraterone ขนาด 250 มิลลิกรัมต่อวัน สาหรับการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจาย โดยให้ใช้ก่อนการรักษาเคมีบาบัด (Pre chemotherapy) ได้

2. กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายา Abiraterone ขนาด 250 มิลลิกรัม อัตรา 160 บาทต่อเม็ด และ 500 มิลลิกรัม อัตรา 320 บาทต่อเม็ด โดยหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 จะมีผลใช้บังคับสาหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป สำหรับอัตราเบิกจ่ายค่ายาตามข้อ 2 ให้มีผลใช้บังคับสาหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป

การปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสาหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการสามารถเข้าถึงการรักษาที่จาเป็นอย่างสมเหตุผล สอดคล้องกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ และสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ

ประกอบกับ ปัจจุบันยารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงหลายรายการมีทั้งยาต้นแบบ original/originator) และยาสามัญ (generic) หรือยาชีววัตถุคล้ายคลึง (biosimilar) ซึ่งมีราคาแตกต่างกันมาก โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนว่ายา generic หรือ biosimilar มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรักษาพยาบาลเทียบเท่าหรือไม่ด้อยกว่ายา original/originator

ดังนั้น การกำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายาจะช่วยให้รัฐสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยาบางส่วนได้ โดยไม่ทาให้คุณภาพการรักษาพยาบาลลดลง ผู้ป่วยจะยังคงได้รับยา ที่มีคุณภาพในการรักษาและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานการคัดเลือกยาของสถานพยาบาล และรัฐสามารถนางบประมาณที่ประหยัดได้ไปใช้ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นที่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาจจะต้องมีการร่วมจ่ายค่ายา หากมีความประสงค์จะเลือกใช้ยาต้นแบบที่มีราคาสูงกว่าอัตราที่กาหนด ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02-127-7000 ต่อ 6850 หรือ 6851 ในวัน เวลาราชการ” หรือสืบค้นข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th

ที่มา : กรมบัญชีกลาง

Exit mobile version