เหตุแผ่นดินไหวในทะเล บริเวณหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ประมาณ 511 กิโลเมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุน้ำทะเลหนุนสูงที่จังหวัดภูเก็ต
ประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานในการแจ้งเตือนภัยกรณีแผ่นดินไหวในทะเล หากมีแผ่นดินไหวในขนาดตั้งแต่ 7.8 ที่ความลึกน้อยกว่า 100 กิโลเมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะทำการแจ้งเตือนภัยสึนามิตามระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Procedure : SOP) เพื่อแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างรวดเร็ว
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ยังสร้างความกังวงใจให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ตว่า จะส่งผลกระทบให้จังหวัดหรือไม่ มีค่า นิวส์ จึงรวบรวมข้อสงสัยเกี่ยวกับสึนามิในไทยมาไว้ที่นี่ เผื่อเป็นคลังข้อมูลให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
1.สึนามิเกิดขึ้นได้อย่างไร
สึนามิ (TSunami) เป็นคลื่นยักษ์ในทะเล มีสาเหตุจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกตามแนวรอยเลื่อนในลักษณะแนวดิ่ง การระเบิดอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้ทะเล และการเกิดดินถล่มในทะเล โดยการเกิดสึนามิของประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดจากแผ่นดินไหวในทะเลตามรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกในมหาสมุทรอินเดีย
2.พื้นที่เสี่ยงเกิดสึนามิในประเทศไทยมีที่ใดบ้าง
พื้นที่เสี่ยงเกิดสึนามิในประเทศไทย จะเป็นพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามัน รวม 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง พังงาภูเก็ต และสตูล ในพื้นที่ 27 อำเภอ 102 ตำบล รวมทั้งสิ้น 509 หมู่บ้าน/ชุมชน
3.ระบบเฝ้าระวังสึนามิของประเทศไทยเป็นอย่างไร
ในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยสึนามิของไทย จะเป็นการติดตามข้อมูลจากเครื่องมือเฝ้าระวังของประเทศต่าง ๆ ที่เป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังที่ถูกส่งไปยังหน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Oceanic and atmosphere administration : NOAA) เพื่อทำการประมวลผลด้วยแบบจำลอง และวิเคราะโดยผู้เชี่ยวขาญ เพื่อคาดการณ์และชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงภัย ที่จะได้รับผลกระทบ ความเร็วของคลื่น และระยะเวลาที่คาดว่าคลื่นจะกระทบฝั่ง เมื่อ NOAA แจ้งยืนยันข้อมูลมายัง ปภ.แล้ว จึงจะนำไปสู่การแจ้งเดือนภัยต่อไป
ในการร่วมติดตามเฝ้าระวังสึนามิ ประเทศไทยเริ่มมีการติดตั้งหุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิตัวแรก โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2549 ในมหาสมุทรอินเดีย โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะทางประบาณ 965 กม. ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ได้มีการติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิตัวที่สองในทะเลอันดามัน ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กม. ปัจจุบันประเทศไทยจึงมีทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ จำนวน 2 ตัว เพื่อใช้ในการรับข้อมูลติดตามเฝ้าระวังการเกิดสึนามิ
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามเฝ้าระวังร่วมกับการติดตามข้อมูลระดับน้ำจากสถามีวัตระดับน้ำทะเลนานาชาลี (The Intergovernmental Oceanographic Commission 10C) จากประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย และสถามีวัดระดับน้ำทะเลของประเทศไทยที่เกาะเบียงและเกาะราชาน้อยร่วมด้วย
4.ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ทำงานอย่างไร
ระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิที่ประเทศไทยใช้เป็นระบบที่ออกแบบโดยหน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตามเฝ้าระวังการเกิดคลื่นสึนามิจะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ทุ่นลอยบนผิวน้ำ (Surface Buoy) ติดตั้งแบบลอยอยู่บนผิวน้ำกลางมหาสมุทร และชุดอุปกรณ์วัดความต้นใต้ต้องทะเล (Bottom Pressure Recorder.BPR) ซึ่งเป็นแท่นติดตั้งที่บริเวณท้องมหาสมุทรลึกลงไปใต้น้ำประมาณ 2,500-3,600 เมตร เครื่องมือทั้ง 2 ส่วนจะทำงานรับสิ่งข้อมูลร่วมกันตลอดเวลา โดยชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเลจะทำหน้าที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของความดันน้ำและนำข้อมูลที่ได้ส่งผ่านไปยังหุ่นลอยบนผิวน้ำ (Surface Buoy) และส่งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำผ่านสัญญาณตางเทียมไปยัง NOAA และหาก NOAA ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคลื่นสึนามิ ก็จะแจ้งเตือนมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ปภ. ทันที
5.เรามีการแจ้งเตือนสึนามิไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างไร
เมื่อ ศภช. ปภ.ได้รับข้อมูลการเกิดสึนามิที่แน่ชัดแล้ว จะทำการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมแจ้งเตือนไปยังหอเตือนภัยและอุปกรณ์เตือนภัยที่ติดตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลนดามัน จำนวน 226 แห่ง รวมถึงส่งข้อความสิ้น (SMS) ไปยังหน่วยงานราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เพื่อให้ทำการแจ้งเตือนและส่งข่าวสารไปยังประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมรับมือและอพยพประชาชนตามแผนเผชิญเหตุ
6.ทุ่นสีนามิไม่ทำงาน แล้วจะแจ้งเตือนได้อย่างไร
กรณีทุ่นสึนามิของประเทศไทยหลุดออกจากตำแหน่งหรือไม่ส่งสัญญาณนั้น จะมีผลทำให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปภ. ไม่ใด้รับข้อมูลโดยตรงจากทุ่นสึนามิของไทย แต่ระบบการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยสึนามิของประเทศไทยยังคงดำเนินการได้ เนื่องจากการติดตามเฝ้าระวัง การเกิดสึนามิของประเทศไทยนั้นเป็นการใช้และประมวลข้อมูลจากหลายฐาน โดยข้อมูลจากทุ่นสึนามิของไทยเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลใช้ร่วมกับข้อมูลจากเครื่องมือเฝ้าระวังของหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่
1.หน่วยงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA)
2.ข้อมูลสถานีวัดระดับน้ำทะเลจากเว็บไซต์ของ The intergovernmental Oceanographic Commission : IOC เป็นต้น
โดยเฉพาะข้อมูลระดับน้ำจากสถานีวัดระดับน้ำทะเลของประเทศอินเดีย และประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังใช้ข้อมูลจากการติดตามการเปลี่ยนเปลระดับน้ำทะเลบริเวณสถานีเกาะเบียง จังหวัดพังงา ของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ และสถามีเกาะราชาน้อย จังหวัดภูเก็ต ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งข้อมูลทั้งหนดนี้ จะนำมาใช้ประกอบการวิเคราะห์กับแบบจำลองการเกิดสึนามิของประเทศไทยที่ได้ออกแบบไว้ล่วงหน้า เพื่อชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสึนามิที่แสดงข้อมูลเชิงลึกถึงพื้นที่ ช่วงเวลาในการเกิดคลื่นสึนามิ และความเร็วของคลื่นที่จะเข้าสู่ฝั่ง
7.ทำไมประเทศไทยต้องมีทุ่นตรวจวัดคลื่นสีนามิ
การที่ประเทศต่าง ๆ มีทุ่นตรวจวัดสึนามิเป็นการร่วนกันทำให้ประสิทธิภาพในด้านข้อมูลการติตตามและเฝ้าระวังสึนามิยากยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในเครือข่ายของระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนสึนามิของ NOAA นอกจากจะเป็นประโยชน์ในการใช้ข้อมูลสึนามิร่วมกันกับ NOAA หน่วยงานระหว่างประเทศ และประเทศภาคีที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ ทั้งบริเวณมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว ยังจะทำให้สามารถรับข้อมูลการเกิดคลื่นสึนามิได้พร้อม ๆ กับที่ข้อมูลถูกสั่งไปยัง NOAA ทำให้สามารถนำข้อมูลมาประมวลผลด้วยเแบบจำลองของประเทศไทยไว้ในเวลาเดียวกัน
8.ทุ่นสึนามิหลุด ทำอย่างไร
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติเเห่งชาติ มีแผนดำเนินการบำรุงรักษาทุ่นตรวจวัดคลื่นสินามิต่อเนื่องเป็นประจำทุก 2 ปี ตามมาตรฐานการดูเเลบำรุงรักษาขององค์การรบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) โดยจะจัดเตรียมทุ่นสำรองไว้ 1 ชุด สำหรับการวางทดแทนทุ่นเดิม หรือกรณีฉุกเฉินที่ทุ่นในทะเลได้รับความเสียหาย
ซึ่งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิของไทยทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ทุ่นตรวจวัดสึนามิในทะเลอันดามัน สถานี 23461 และทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรรอินเดีย สถานี 23401 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะครบรอบการบำรุงรักษาระบบปี พ.ศ.2565 ศภช. ปภ.จึงได้วางแผนดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2565 เนื่องจากการนำทุ่นตรวจวัดสึนามิไปติดตั้งทดแทนทุ่นชุดเดิม จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสภาพอากาศและสภาพพื้นน้ำทะเลที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM