ตอนนี้มีรายงานข่าวในสื่อออนไลน์ที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ในกรณีที่มีการนำผงพิเศษไปอุดฟัน ซึ่งเป็นการใช้ที่ผิดวิธี และอันตรายมาก ทำให้ มีค่า นิวส์ เลยต้องทำการรีบหาข้อมูล เพื่อให้ผู้อ่านได้ตระหนัก และเข้าใจมากยิ่งขึ้น หากมีปัญหาด้านฟันขึ้นมา
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรณีมีการนำผงพิเศษไปอุดฟัน เป็นการใช้ยาผิดวิธี และอันตรายอย่างยิ่ง เพราะยาชนิดนี้เป็นยาสำหรับการฆ่าเชื้อบริเวณผิวภายนอกร่างกาย ไม่ควรนำมาใช้กับช่องปาก ซึ่งมีส่วนผสมของยาซัลฟานิลาไมด์ (Sulfanilamide) ทำให้ต้องระวังการใช้ในผู้ที่แพ้ยากลุ่มนี้ ผลข้างเคียงมีตั้งแต่ระดับที่ไม่รุนแรงไปถึงระดับที่รุนแรง เกิดผื่นแพ้ยา หรือแพ้แบบ Stevens-Johnson Syndrome (SJS) อาจเกิดแผลพุพองที่ผิวหนัง ผิวลอก หรือมีของเหลวไหลออกมาจากผิวหนังชั้นนอก หรือเกิดอาการแพ้ร่วมกับอาการแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ ที่เรียกว่า Toxic Epidermal Necrolysis (TEN) ได้
ดังนั้น การอุดฟัน ควรได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกวิธี วัสดุที่ใช้ภายในช่องปากต้องเหมาะสมและได้มาตรฐานสำหรับการรักษา เพื่อให้ฟันซี่นั้นๆ กลับมามีลักษณะใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด รวมถึงควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปาก ควรลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงรับประทานเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การอุดฟัน คือ การบูรณะฟัน เพื่อให้ฟันที่ผุหรือเสียหายกลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ มีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงฟันเดิม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการอุดฟันไม่ได้บูรณะฟันแค่กรณีฟันที่มีรอยผุหรือเป็นรู แต่รวมถึงฟันที่แตก ฟันบิ่น ฟันที่มีรอยสึก หรือมีอาการเสียวฟัน ซึ่งทันตแพทย์จะทำการตรวจ วางแผน และดูความเหมาะสมของวัสดุที่ใช้บูรณะ ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการบูรณะฟัน แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- วัสดุอมัลกัมที่นิยมใช้บูรณะฟันหลัง
- วัสดุบูรณะสีเหมือนฟัน เช่น วัสดุเรซินคอมโพสิต
โดยก่อนการบูรณะฟันจะต้องมีการเตรียมโพรงฟัน จะทำการกรอตัดเนื้อฟันที่ผุออก และแต่งฟันให้มีขนาดรูปร่างที่เหมาะสมต่อวัสดุบูรณะนั้น ๆ แล้วจึงทำการบูรณะฟัน ภายหลังจากการบูรณะฟันแล้ว ควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หมั่นตรวจดูวัสดุอุดฟันว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ มีรอยแตกบิ่น ใช้ไหมขัดฟันแล้วขาด หรือมีกลิ่นเหม็นควรรีบไปพบทันตแพทย์เกี่ยวกับอาการดังกล่าว เพื่อทำการบูรณะต่อไป
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ควรแปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง หรือแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร
- ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
- ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน
- ควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน
ที่มา: กรมการแพทย์
