Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ทำงานนวดสปา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กระทรวงแรงงาน เตือนสาวไทย ระวังถูกนายหน้าเถื่อนหลอกใช้วีซ่าท่องเที่ยว ก่อนถูกบังคับขายบริการทางเพศ

ทำงานนวดสปา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีมีโฆษณา Facebook ชักชวนหญิงสาวชาวไทยไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  เช่น “แรงงานไทยในประเทศดูไบ” “หางานนวดต่างประเทศ” ชักชวนให้ไปทำงานในตำแหน่งนวดสปา งานการตลาด งานแอดมินดูแลเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และพนักงานฝ่ายบุคคล โดยอ้างว่าจะได้รับค่าจ้างสูง และจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ก่อน พร้อมทั้งจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่าให้ โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) เดินทางเข้าไปในยูเออี

และเมื่อเดินทางไปถึงจะมีคนมารับที่สนามบินให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้ และพาไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงไว้ อาทิ งานในร้านนวดที่มีการลักลอบขายบริการทางเพศ งานด้านการพนันออนไลน์ ระหว่างนี้ จะยึดหนังสือเดินทางไว้เพื่อไม่ให้เหยื่อหนี  ซึ่งการโฆษณารับสมัครงานดังกล่าว เป็นโฆษณาชักชวนคนไทยให้เดินทางเข้ามาทำงานในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และมีหญิงไทยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อถูกบังคับค้าประเวณี และถูกทำร้ายร่างกาย

กรณีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น มีกฎหมายที่เข้มงวดและรุนแรง ซึ่งการค้าประเวณีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับหรือตามที่ศาลพิจารณาและจะถูกเนรเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานมีภารกิจในการให้ความคุ้มครองคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และมีสำนักงานจัดหางานจังหวัดอยู่ทั่วประเทศ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับคนหางานในพื้นที่ที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รู้ทันเล่ห์กลของนายหน้าเถื่อน

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขอให้คนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ทำความเข้าใจว่าหากสาย-นายหน้ามีพฤติการณ์ชักชวนให้ทำงานผิดกฎหมาย แนะนำให้ลักลอบเข้าประเทศ หรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งการทำงานต่างประเทศกับกรมการจัดหางาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่าท่านกำลังถูกหลอกลวง โปรดอย่าหลงเชื่อ สำหรับยูเออีตำรวจเข้มงวดอย่างมากในการจับกุมผู้ใช้วีซ่าผิดประเภทในการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย และผู้ถือวีซ่าหมดอายุ

จนมีคนไทยหลายคนถูกจับกุม ติดคุกและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายท้องถิ่นจำนวนมาก และการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มคนดังกล่าวให้ได้เดินทางกลับประเทศไทยกระทำได้ยาก เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฯไม่สามารถไปก้าวก่ายกระบวนการทางกฎหมายและยุติธรรมของทางการยูเออีได้ จะต้องรอจนกว่ากระบวนการทางศาลสิ้นสุด โดยไม่สามารถเรียกร้องสิทธิประโยชน์ใดๆ ได้เนื่องจากเป็นการกระทำผิดกฎหมายตั้งแต่แรก

นอกจากนี้ ผู้ลักลอบไปทำงานอย่างผิดกฎหมายหากประสบปัญหาใด ๆ จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยเอง ดังนี้

1.กรณีผู้ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน (Visit Visa) และลักลอบทำงาน มีโทษปรับ 50,000 ดีแรห์ม หรือประมาณ 475,000 บาท หากกระทำผิดซ้ำจะถูกปรับสองเท่าและถูกเนรเทศ

2.กรณีหากไม่มีเงินค่าปรับ ต้องจำคุกแทนค่าปรับวันละ 100 ดีแรห์ม

3.กรณีอยู่เกินวีซ่า (Overstay)จะโดนปรับวันแรก 200 ดีแรห์ม หรือ 1,900 บาท และวันต่อไปวันละ 100 ดีแรห์ม หรือ 950 บาท และค่าธรรมเนียมอีก 100 ดีแรห์ม

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศ สามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงได้ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th หรือ www.doe.go.th/overseas  เว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-245-6708 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

Exit mobile version