Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ครม.อนุมัติหลักการมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ครม.อนุมัติหลักการมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 23 สิงหาคม 2565 อนุมัติในหลักการการคืน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่ได้นำเงินมาคืนทางราชการแล้ว จำนวน 28,345 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 245,243,189.70 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565)

ทั้งนี้ มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และกระทรวงการคลัง หาแนวทางการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้สูงอายุรับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่น และได้นำเงินมาคืนให้ทางราชการ แจ้งให้มีการถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดีในกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินคดีเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) มีคำวินิจฉัยว่า เงื่อนไขที่กำหนดหลายข้อ มีค่า นิวส์ สรุปมาให้

1.ผู้สูงอายุที่จะได้รับเบี้ยยังชีพ ต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐเป็นเงื่อนไขที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546

2.การจ่ายเงินเบี้ยงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ ที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขดังกล่าว จึงเป็นการจ่ายเงินให้โดยชอบ  ในกรณีที่ผู้สูงอายุนำเงินมาคืนราชการ หน่วยงานที่รับเงินไว้มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินคืนให้ผู้สูงอายุ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติไว้ ในมาตรา 48 วรรค 2 มีเพียง 2 ประการ คือ

1.อายุเกิน 60 ปี

2.ไม่มีรายได้ที่เพียงพอแก่การยังชีพ

จึงเป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่รัฐจะตรากฎหมายเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว ดังนั้น ระเบียบของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) และระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามระเบียบของ กผส. ที่กำหนดเงื่อนไขว่า ต้องไม่เป็นผู้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ถือว่าไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ระหว่างนี้ พม. ยังอยู่ระหว่างการนำเสนอแนวทางการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต่อคณะกรรมการผู้สูงอายุเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งเมื่อได้แนวทางชัดเจนแล้ว กระทรวงมหาดไทยจะแก้ไขระเบียบให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าวต่อไป

อย่างไรก็ตาม การคืนเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ที่ได้นำเงินมาคืนราชการแล้ว จำนวน 28,345 ราย นั้น  เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วน และสมควรที่จะต้องรีบดำเนินการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา เช่น ปัญหาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ  การขาดโอกาสในการเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที ผู้สูงอายุเสียชีวิต และการร้องเรียนต่าง ๆ

Exit mobile version