ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์ในปี 2565 ซึ่งมีประชากรผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด โดยหน่วยงานราชการ เอกชน รวมถึงประชาชนจำเป็นต้องมีความเข้าใจในปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างรอบด้าน หนึ่งในปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ ที่สำคัญมาก คือ ภาวะสมองเสื่อม
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า รายงานในปี 2563 ประมาณการว่ามีผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมถึง 651,950 คน จากผู้สูงอายุ 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 5.43 ของผู้สูงอายุทั้งหมด กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดระบบบริการผู้สูงอายุแบบองค์รวมในรูปแบบ “คลินิกผู้สูงอายุ” ทั่วประเทศ
ด้านนายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer s disease) เกิดจากการสะสมของโปรตีนที่ผิดปกติในระบบประสาท ทำให้เกิดการทำลายเซลล์ประสาทและเกิดสมองฝ่อตามมา ปัจจัยเสี่ยงอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม
แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด อาการที่พบบ่อยที่สุด มักเป็นผู้สูงวัยที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป มีปัญหาความจำบกพร่อง ผู้ป่วยจะเริ่มถามซ้ำ ๆ จำวัน เวลา และสถานที่ของเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้ เมื่ออาการของโรคมากขึ้นผู้ป่วยอาจเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
รวมถึงมีปัญหาพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่ายขึ้น หลงผิด หรือมีอาการหลอนตามมา ท้ายที่สุดผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านสมรรถภาพสมองบกพร่องในทุกด้าน จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งสร้างความยากลำบากมากขึ้นต่อการใช้ชีวิตของผู้ป่วยและการดูแลของญาติ
การรักษาปัจจุบัน ประกอบด้วย
1.การรักษาทางยา จะช่วยชะลอให้ความจำเสื่อมถอยช้าลงเล็กน้อย ผู้ป่วยจะทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น
2.การปรับพฤติกรรม หรือทำกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพความจำ
3.การรักษากายและใจโดยรวมให้ดีก็เป็นส่วนที่สำคัญ
สำหรับญาติหรือคนใกล้ชิดที่สงสัยว่ามีผู้สูงอายุใกล้ตัว มีอาการภาวะสมองเสื่อม ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป