Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

How To กินเจ ให้แข็งแรง ปลอดภัย และสารอาหารครบถ้วน

เทศกาลกินเจ

อีกไม่กี่วันก็ใกล้จะถึงเทศกาลกินเจ ซึ่งหลายคนกำลังเตรียมตัวเพื่อรับบุญจากการเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ และการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่จะได้กำจัดสารพิษที่ไม่ดีออกจากร่างกายเช่นเดียวกัน ทำให้ มีค่า นิวส์ จึงเอาคำแนะนำดี ๆ เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังจะเริ่มถือศีลกินเจปีนี้ ได้มีสุขภาพที่ดี ร่างกายแข็งแรง และได้บุญควบคู่กันไปมาฝาก

เทศกาลถือศีลกินเจปีนี้ ตรงกับวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่นิยมของชาวไทย ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต เป็นช่วงเวลาปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ล้างพิษในร่างกายรวมถึงช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การงดอาหารรสจัด ลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และเพื่อได้บุญสุขใจ และมีสุขภาพดี จึงขอแนะนำหลักปฏิบัติช่วงถือศีล ดังนี้ 

  1. การรับประทานอาหารเจควรทานให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ เช่น ธัญพืช เต้าหู้ เห็ด ถั่ว เพื่อป้องกันการขาดโปรตีน 
  2. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ลดหวาน  ลดมัน ลดเค็ม หรืออาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 
  3. ทุกมื้อควรเพิ่มผักหรือผลไม้สด โดยหากปรุงอาหารหรือรับประทานผักและผลไม้สด ต้องแช่และล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง เพื่อชะล้างสารเคมีที่มักปนเปื้อนมากับผักและผลไม้สด 
  4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นให้ความร้อนทั่วถึง และอุปกรณ์บรรจุทุกชิ้นต้องสะอาด
  5. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคอ้วน
    แนะควบคุมการรับประทานอาหารเจเป็นพิเศษ เนื่องจากอาหารเจจะเน้นผัก ผลไม้ คาร์โบไฮเดรต หรือโปรตีนจากถั่วต่างๆ ซึ่งย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์มาก ทำให้รู้สึกหิวบ่อยกว่าปกติ อาจทำให้รับประทานอาหารระหว่างมื้อบ่อยครั้ง
    อาหารเจหลายเมนูมีวัตถุดิบที่ทำจากแป้ง และมักใช้วิธีการทอดทำให้มีไขมันสูง อาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลหรือคอเลสเตอรอลในเลือดและระดับความดันโลหิตได้ จึงต้องระวังอาหารประเภททอด หรือใช้น้ำมันรวมทั้งมีเกลือเป็นส่วนประกอบ
    ผลไม้ควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม มีรสชาติไม่หวานจัด
    ควรออกกำลังกายเพื่อช่วยการเผาผลาญแป้งและน้ำตาลที่รับประทานมากขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ

     ที่มา: กรมควบคุมโรค

Exit mobile version