น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ตุลาคม 2565 อนุมัติดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ถึง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 วงเงินรวมทั้งสิ้น 4,841 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ ก่อสร้าง โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา
1.ช่วยลดระยะทางในการเดินทางระหว่างอำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ถึง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จาก 80 กิโลเมตร เป็น 7 กิโลเมตร
2.ลดระยะเวลาในการเดินทางจาก 2 ชั่วโมง เป็น 15 นาที
3.ช่วยพัฒนาเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ และเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ เชื่อมโยงทะเลอันดามัน ถึง อ่าวไทย เชื่อม 3 จังหวัด คือ ตรัง – พัทลุง – สงขลา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่โดยรอบทะเลสาบสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง
4.ช่วยบรรเทาปริมาณจราจรของถนนทางหลวง และแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัด
5.ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางและในกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์
6.ช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่
ทั้งนี้ ครม.กำชับว่า การดำเนินโครงการก่อสร้าง จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง ซึ่งห่างจากบริเวณพื้นที่โครงการประมาณ 6 กม. และเป็นบริเวณที่มีการกำหนดเป็นเขตคุ้มครองโลมาอิรวดี ซึ่งประเด็นนี้ ธนาคารโลก ซึ่งจะเป็นผู้ให้กู้ตามโครงการนี้ได้แสดงความห่วงใยมาเช่นเดียวกัน กระทรวงการคลังจะมีการประสานกับธนาคารโลกและหน่วยงานต่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมในการกำหนดแนวทางป้องกันผลจากโครงการก่อสร้างไม่ให้กระทบสัตว์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองต่อไป
พร้อมกันนี้ ครม.ยังอนุมัติดำเนินงานก่อสร้างโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง ถึง ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ของกรมทางหลวงชนบท ระยะทาง 2.2 กม. (ความยาวสะพาน 1.92 กม. และความยาวถนนต่อเชื่อม 280 เมตร) ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,854 ล้านบาท
เหตุผลของการก่อสร้าง โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา
1.ปัจจุบันการเดินทางระหว่างแผ่นดินใหญ่ ตำบลเกาะกลางและเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จะต้องผ่านทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้านหัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาน้อย แม้ว่าจะมีระยะทางเพียง 1.53 กิโลเมตร แต่เนื่องจากแพขนานยนต์สามารถบรรทุกรถยนต์ได้น้อยทำให้เกิดปัญหาความล่าช้า ผู้โดยสารจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่าในการเดินทาง
2.ประกอบกับในบางช่วงเวลาจะมีปัญหาเรื่องระดับน้ำทะเลที่ขึ้นลงตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นอุปสรรคของแพขนานยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กระทรวงคมนาคมได้เปิดให้บริการสะพานสิริลันตา เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างเกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่แล้ว
3.ช่วยบรรเทาปริมาณการจราจรของถนนทางหลวง แก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้าบริเวณท่าแพขนานยนต์
4.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบท เพื่อเชื่อมโยงต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่ง
5.แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อม (Missing Link) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
6.ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่และกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นและภูมิภาค
ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา
1.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ลดระยะเวลาการเดินทาง จากการเดินทางด้วยแพขนานยนต์ ซึ่งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในขณะที่การใช้สะพานจะลดเวลาเหลือเพียง 2 นาที
2.ช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมและการขนส่งให้เกิดความสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.ลดระยะทางการเดินทางระหว่างอำเภอคลองท่อม และอำเภอเกาะ ลันตาน้อย จังหวัดกระบี่
4.ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทาง และในกรณีเกิดภัยพิบัติสามารถอพยพประชาชนในพื้นที่ได้รวดเร็วทันการณ์
5.ช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม การบริการและการท่องเที่ยวระหว่างเกาะลันตาและแผ่นดินใหญ่ รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการบริการโลจิสติกส์ในพื้นที่