โรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) เป็นภาวะของผนังหลอดเลือดอ่อนแรงลงจึงเกิดอาการโป่งพอง ซึ่งเกิดได้ทั้งหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำ โดยส่วนมากที่พบมักจะเป็นหลอดเลือดแดง โดยเส้นเลือดสมองโป่งพองแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- เส้นเลือดสมองโป่งพองแบบยังไม่แตก ทำให้อาการที่ไปกดทับเส้นประสาทข้างเคียง หรือมีขนาดใหญ่มากกว่า 2.5 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดอาการชักหรืออ่อนแรงได้
- เส้นเลือดสมองโป่งพองแบบแตกแล้ว เมื่อมีการแตกเลือดที่ออกมาจะทำให้ความดันในกะโหลกสูงขึ้น ถ้าร่างกายหยุดเลือดไม่ได้ ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตทันที แต่ถ้าเลือดหยุดได้ ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยเลือดออกในชั้นต่าง ๆ ของสมอง เช่น เลือดออกในช่องใต้เยื้อหุ้มสมองชั้นอะแร็คนอยด์ หรือเลือดออกในเนื้อสมอง ซึ่งภาวะนี้เป็นอันตรายถึงพิการหรือนำไปสู่การเสียชีวิตได้
โดยคาดว่าโรคดังกล่าวมีสาเหตุที่เป็นไปได้ดังนี้
- เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด หรือโรคทางพันธุกรรมเส้นเลือดแข็งตัวและเสื่อม
- ภาวะการติดเชื้อ หรือมีการอักเสบในร่างกาย
- เนื้องอกบางชนิด
- อุบัติเหตุ
อาการที่พบได้บ่อยที่สุด คือ
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรงมักเป็นทันทีทันใด
- คลื่นไส้อาเจียน
- หมดสติ
- การถูกกดทับเส้นประสาท เช่น คอแข็ง หรือปวดร้าวบริเวณใบหน้า
- การอุดตันของหลอดเลือด
- ชัก
- เสียชีวิต
การวินิจฉัยโรคแพทย์จะส่งตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และการตรวจหลอดเลือดในสมอง เพื่อหาความผิดปกติของหลอดเลือดได้แก่
- เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ร่วมกับการฉีดสารทึบแสง (CTA)
- ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าร่วมกับการฉีดสารทึบแสง (MRA)
- การเจาะหลัง ใช้เมื่อต้องการพิสูจน์ภาวะเลือดออกมาช่องใต้เยื่อหุ้มสมองอะแร็คนอยด์
- กรณีที่มองไม่เห็นในซีทีสแกน แพทย์จะทำการรักษาผู้ป่วยโดยการผ่าตัดและรังสีร่วมรักษาโดยอุดหลอดเลือด
ที่มา: สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข