การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) หรือ ประชุมสภา โหวตเลือกนายก 2566 วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 โดยก่อนที่จะมีการลงมติโหวตเลือกนายกฯ จะมีการเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว.อภิปรายก่อน จากนั้นนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ปรากฎว่า มีผู้แสดงตนรับรองการเสนอชื่อทั้งสิ้น 302 คน
ก่อนประธานรัฐสภา จะเปิดโอกาสให้ ผู้ที่ต้องการเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม แต่ไม่มีผู้เสนอชื่อ จึงมีชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพียงคนเดียว ซึ่งการประชุมสภาครั้งนี้ มีจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด รวม 749 คน ซึ่งการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่ง **ต้องอยู่ที่ 375 คน
กระทั่ง ประธานรัฐสภา นับองค์ประชุมแสดง มีสมาชิกสภาแสดงตน 676 คน จาก 749 คน ครบองค์ประชุม แม้จะมีการลาประชุม 44 คน แต่เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง จึงเริ่มนับเสียงโหวต โดยให้สมาชิกขานว่า
1.เห็นชอบ
2.ไม่เห็นชอบ
3.งดออกเสียง
ท้ายที่สุด ผลโหวตเลือกนายก 2566 ล่าสุด คะแนนไม่ถึง 375 กึ่งของสมาชิก 749 เสียง ทำให้ **นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้วางไทม์ไลน์วันเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ 3 รอบ 3 วัน คือ
- รอบแรกวันที่ 13 ก.ค. 66
- รอบสองวันที่ 19 ก.ค. 66
- รอบสามวันที่ 20 ก.ค. 66
กรณีถ้าหากกำหนดไว้ 3 ครั้งแรก แล้วยังไม่ได้ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะมีการพูดคุยกันใหม่ หรือพลิกให้พรรคเพื่อไทย มานำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายพิเชษฐ์ ระบุว่า แล้วแต่ที่ประชุมรัฐสภา และที่ประชุม 8 พรรค ที่ต้องทำตาม MOU ที่จะต้องจับมือกันไป ต้องพูดคุยกันเป็นการภายในต่อไป
ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจ
ขอบคุณภาพ วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา