น.ส.ไตรศุลีไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ก.ค. 66 อนุมัติให้มีการ บำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในจำนวนไม่เกิน 13,116 อัตรา จากเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 628,827 อัตราของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 17 หน่วยงาน
คาดว่าจะใช้งบประมาณ 86.17 ล้านบาท หรือ ประมาณ 6,570 บาทต่อคนต่อปี โดยใช้งบประมาณของต้นสังกัดที่มีการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว ไม่ต้องของบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติม จึงไม่เป็นกรณีที่ ครม. ได้อนุมัติงาน หรือโครงการที่มีผลสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169(1)
ทั้งนี้ จากจำนวนบำเหน็จ 13,116 อัตรา เมื่อแบ่งตามภารกิจจะเป็นการให้บำเหน็จกรณีพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรงไม่เกิน 9,205 อัตรา (ร้อยละ 2.5 ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฯ ทั้งหมด 365,208 อัตรา) และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่เกิน 3,911 อัตรา (ร้อยละ 1.5 ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลฯ ทั้งหมด 260,719 อัตรา)
หากแบ่งตามพื้นที่จะแยกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดในระดับภูมิภาครวม 9,837 อัตรา ซึ่งแยกย่อยเป็นอีก 2 ส่วน ได้แก่
- เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน 31 จังหวัด 3,443 อัตรา
- เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตอนใน 6,394 อัตรา
กลุ่มที่ 2 เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดจากหน่วยงานส่วนกลาง 1,967 อัตรา
กลุ่มที่ 3 เจ้าหน้าที่ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส.เป็นผู้พิจารณาจากทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค สำนักงาน ป.ป.ส. และกรณีทุพพลภาพ 1,312 อัตรา
บำเหน็จกรณีพิเศษดังกล่าว จะเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ทุ่มเทและเสียสละในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ ซึ่งได้ร่วมกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขยาเสพติดตามภารกิจและภายใต้นโยบายและ แผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.2566-2570 (ประจำปีงบประมาณ 2566)
ผ่าน 6 มาตรการ ได้แก่
- มาตรการป้องกันยาเสพติด
- มาตรการปราบปรามยาเสพติด
- มาตรการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด
- มาตรการบำบัดรักษายาเสพติด
- มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศ
- มาตรการบริหารจัดการ