Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ดูไว้ก่อน! ร่าง MOU ระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ WIPO ขยายความร่วมมือช่วยเหลือ SME สตาร์ทอัพ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบ ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ว่าด้วยการขยายความร่วมมือในสาขาเฉพาะ และอนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในนามอาเซียน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างอาเซียนและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นอกเหนือจากที่ดำเนินการอยู่แล้ว ตามแผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญา 2559-2568 (The ASEAN Intellectual Property Rights Action Plan 2016 – 2025: AIPRAP) ที่อาเซียนดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1.วัตถุประสงค์ และขอบเขตความร่วมมือเพื่อตอบสนองความต้องการและครอบคลุมสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ด้านทรัพย์สินทางปัญญาของภาคธุรกิจที่ยังไม่ได้รับการดูแล ได้แก่

1.1 ให้ความช่วยเหลือ SME และสตาร์ทอัพในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาสนับสนุนการค้าภายในภูมิภาคอาเซียนและระหว่างภูมิภาค ผ่านการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจน การจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ เช่น การอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

1.2 ยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจด้วยการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ วิดีโอเกม หรือเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยการวิเคราะห์สิทธิบัตรต่างๆ และปัญญาประดิษฐ์

1.3 สำรวจและแบ่งปันแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในอาเซียนเพื่อปลดล็อคการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ให้สามารถนำมาใช้เป็นหลักค้ำประกันเงินกู้เพื่อต่อยอดธุรกิจได้

1.4 สนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้แพลตฟอร์ม WIPO สำหรับนักสร้างสรรค์

2.ความรับผิดชอบทั่วไปของผู้เข้าร่วม (อาเซียน และ WIPO) ได้แก่

2.1 ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายจะไม่กระทำการใดๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ต่างๆ ของผู้เข้าร่วมอีกฝ่าย และจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ของร่างบันทึกความเข้าใจนี้อย่างเต็มที่

2.2 ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ที่เข้าร่วมไว้เป็นความลับภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจนี้ ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เข้าร่วมที่เกี่ยวข้องแล้ว

2.3 ข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบันทึกความเข้าใจนี้จะต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายก่อนเผยแพร่หรือเปิดเผย

3.ระยะเวลาบังคับใช้ และการสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ นี้มีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม และมีผลบังคับใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โดยก่อนจะหมดอายุผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายอาจตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อต่ออายุต่อไปได้ และอาจสิ้นสุดโดยความยินยอมร่วมกันของผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายหรือโดยผู้เข้าร่วมฝ่ายหนึ่ง แจ้งให้ผู้เข้าร่วมอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า 3 เดือน

Exit mobile version