กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สถาบันพลาสติก เทศบาลตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง และจังหวัดระยอง ร่วมเปิด “ศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร” (Material Recovery Facility : MRF) ซึ่งเป็นต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย จากการขยายผลความสำเร็จ “ตาลเดี่ยวโมเดล” สู่ภาคเอกชน
สำหรับการคัดแยกและยกระดับคุณภาพวัสดุรีไซเคิลเหลือใช้ในชุมชนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีฝีมือคนไทย
พร้อมดำเนินการในรูปแบบ “ธุรกิจชุมชน” หรือ Community Enterprise ตั้งเป้าแก้ปัญหาพลาสติกใช้แล้วและวัสดุรีไซเคิลในหลุมฝังกลบ เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลกว่า 1,000 ตันต่อปี พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ( เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ณ จ.ระยอง)
การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรวมกว่า 20 ล้านบาท จากกองทุน Dow Business Impact Fund และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ร่วมกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีเทศบาลตำบลบ้านฉางเป็นผู้สนับสนุนและจัดหาพื้นที่ในการก่อสร้างศูนย์ฯ ซึ่งเป็นธุรกิจชุมชนที่จะดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 เพื่อเปิดโอกาสให้คนในชุมชนได้มีส่วนเข้ามาร่วมดำเนินการและรับผลประโยชน์ร่วมกัน
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. มีบทบาทในด้านวิจัยและพัฒนา บริการ ถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นเวลากว่า 60 ปี ได้สร้างสรรค์ผลงานวิจัย พัฒนา บูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสนองตอบต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ผลักดันให้เกิดการนําไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ วว. ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการจัดตั้ง ศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร โดยการนำนวัตกรรมจากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้จริงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่ง วว. และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย รวมทั้งพันธมิตร ต่างตระหนักถึงความสำคัญในการจัดการวัสดุรีไซเคิลแบบมีส่วนร่วมด้วยการใช้ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ขับเคลื่อนการจัดการวัสดุรีไซเคิลให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยขยายผลความสำเร็จจากตาลเดี่ยวโมเดลสู่ภาคเอกชน เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน มุ่งเน้นการจัดการวัสดุรีไซเคิลที่ต้นทางเพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สร้างงาน สร้างอาชีพ สอดคล้องกับนโยบาย BCG Economy
“…การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนฯ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการนำผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงเครื่องจักรที่พัฒนาโดยคนไทยมาใช้ประโยชน์ต่อการบริหารจัดการวัสดุรีไซเคิลและของเหลือใช้อย่างเป็นรูปธรรม ลดการพึ่งพาและนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการรวบรวมและคัดแยกวัสดุรีไซเคิล ร่วมกับการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับพลาสติกรีไซเคิลในการเกิดวัตถุดิบรอบสองที่มีคุณภาพสูงเพิ่มอัตราการนำวัสดุกลับมารีไซเคิล นับเป็นการนำนวัตกรรมจากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้จริงให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เกิดการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนและเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการพัฒนาประเทศต่อไป…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับจังหวัดระยองได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากได้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในจังหวัดระยอง ก่อให้เกิดขยะและวัสดุเหลือใช้จำนวนมาก เชื่อมั่นว่าศูนย์ MRF แห่งนี้จะช่วยสนับสนุนปฏิบัติการของจังหวัดตามนโยบายและแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในทางออกของปัญหาการจัดการขยะชุมชนและพลาสติกที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นว่าจังหวัดระยองของเรามีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะผนึกกำลังสร้างและยกระดับให้บ้านของพวกเราเป็นต้นแบบการจัดการขยะที่ยั่งยืน
ดร.พงษ์วิภา หล่อสมบูรณ์ ประธานอนุกรรมการ แผนงานกลุ่มเศรษฐกิจหมุนเวียนหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กล่าวว่า บพข. ในฐานะองค์กรสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วนในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยได้รับทุนวิจัยสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อร่วมจัดตั้งศูนย์ฯ และนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย BCG ในการนำทรัพยากรกลับมาใช้ให้ได้มากและนานที่สุด จึงช่วยลดขยะและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยลงได้อย่างมหาศาล เป็นอีกหนึ่งทางออกหลักของการแก้ปัญหา climate change ได้ และนับเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ผ่านความร่วมมือใน Value Chain แบบครบวงจร
นายจิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Dow กล่าวว่า พลาสติกมีคุณค่าเกินกว่าจะถูกทิ้งให้เป็นขยะ เพราะพลาสติกมีการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ ยิ่งเราเพิ่มอัตราการนำพลาสติกใช้แล้วกลับมารีไซเคิลได้มาก ก็ยิ่งช่วยลดคาร์บอนได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จึงเป็นการช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาขยะไปพร้อม ๆ กัน
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า การก่อตั้งศูนย์ MRF ต้นแบบนี้จะเกิดประโยชน์ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ 2) ด้านสิ่งแวดล้อม เพราะพลาสติกและของเหลือทิ้งจากชุมชนจะถูกเก็บกลับมารีไซเคิลหรือนำมาใช้ประโยชน์ และ 3) ด้านสังคม สร้างความตระหนักในการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและยังพัฒนาเป็นต้นแบบซึ่งชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศและในภูมิภาคสามารถมาเรียนรู้และนำไปทำตามได้