ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เกิดวันที่ 20 กันยายน 2520 ปัจจุบันอายุ 46 ปี ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายของศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก, อดีตเลขาธิการอังค์ถัด และนางศสัย พานิชภักดิ์ มีน้องสาว 1 คน คือ นางสาวนฤน พานิชภักดิ์
ปริญญ์ เข้าศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ก่อนจะย้ายไปศึกษาระดับไฮสคูลต่อที่โรงเรียนมิลล์บรูกเฮาส์ และโรงเรียนชาร์เตอร์เฮาส์ ประเทศอังกฤษ ต่อมาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต (เศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน
หลังจากนั้น ปริญญ์ ได้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงอีกหลายครั้ง อาทิ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้บริหารระดับสูงจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม (วธอ.) รุ่นที่ 2, หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 15
ปริญญ์ เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นนักเศรษฐศาสตร์และการเงิน ตำแหน่งวาณิชธนากร ที่ ธนาคารเอบีเอ็นแอมโร สหราชอาณาจักร รองประธานที่ประชุมธุรกิจอาเซียน-สหราชอาณาจักร (AUBF) ผู้ร่วมก่อตั้งเทศกาลภาพยนตร์ไทย-สหราชอาณาจักร เป็นต้น
ปริญญ์ ยังเคยดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของประเทศไทย ได้แก่ ที่ปรึกษาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ, กรรมการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย, กรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, กรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2562 ปริญญ์ ได้ก้าวเข้าสู่การทำงานด้านการเมือง ด้วยตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) รวมถึงเป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา รัฐสภา และเลขาธิการคณะอนุกรรมการทรัพย์สินทางปัญญา รัฐสภา
ต่อมาในวันที่ 14 เมษายน 2565 ปริญญ์ แถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจาก ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนสตรีวัย 18 ปี และ 27 ปี ขึ้นศาลในย่านแบล็กแฟรส์ของลอนดอน รวมถึงได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ จำนวน 3 คดี ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ล่าสุด ปี 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็ได้มีคำพิพากษาสั่งจำคุกปริญญ์เป็นเวลาเพิ่มอีก 2 ปี จนทำให้ชื่อของเขากลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูล วิกิพิเดีย
ขอบคุณภาพ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ – Prinn Panitchpakdi