Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ชุดตรวจฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ตรวจการตั้งท้องของสุกร นวัตกรรมนักวิจัยจุฬาฯ ใช้ง่าย แม่นยำ

สุกรท้องแล้วหรือยัง สุกรสาวพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์หรือไม่ เป็นคำถามสำคัญที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรต้องการคำตอบ เพื่อที่จะได้วางแผนการบริหารจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมา เกษตรกรต้องมีชั่วโมงบินมากพอสมควรในการสังเกตการตั้งท้องของสุกร สำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่อาจยังมีไม่มากพอ นอกจากนี้ การจะใช้ความเชี่ยวชาญส่วนบุคคลในการสำรวจสุกรรายตัว เพื่อพิสูจน์การตั้งท้อง สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ก็ต้องใช้เวลามาก

ล่าสุด ทีมวิจัย รศ.ดร.กิตตินันท์ โกมลภิส ร่วมกับ ทีมวิจัยของ ศ.ดร.นสพ.เผด็จ ธรรมรักษ์ และ ศาสตราจารย์ ดร.ศิริรัตน์ เร่งพิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงใช้แนวคิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนา นวัตกรรมแถบทดสอบที่ใช้ตรวจหาโปรเจสเทอโรนในเลือดของสุกรสาว (Progesterone Test Kit) หรือ ชุดตรวจฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน

ชุดตรวจฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน จุฬาฯ ใช้ยังไง

1.วิธีใช้ : ชุดทดสอบนี้จะตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร โดยการเอาตัวอย่างเลือดจากสุกร อาจจะเจาะบริเวณใบหูของสุกร เพื่อเก็บเลือด ประมาณ 3 หยด หรือ จะใช้ซีรั่มที่เป็นน้ำใส ๆ ด้านบนเวลาตั้งเลือดทิ้งไว้ แล้วเอาสารคัดหลั่งดังกล่าวมาหยดลงบนแถบทดสอบ (Strip Test) ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทราบผลทดสอบ คล้ายการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK

2.การอ่านผล :

2.1 ถ้าผลเป็นบวก ชุดทดสอบจะขึ้น 1 ขีด หมายถึง ระดับโปรเจสเทอโรนมีมากกว่า 10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร แปลว่า มีฮอร์โมนสูงพอที่จะตั้งท้องได้ โดยควรจะทำการตรวจระหว่าง 18-24 วันภายหลังการผสมพันธุ์

2.2 แต่ถ้าผลทดสอบเป็นลบ จะขึ้น 2 ขีด หมายถึงระดับโปรเจสเทอโรนมีน้อยกว่า 10 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร สุกรไม่ตั้งท้อง

การตรวจสอบนี้ จะช่วยจำแนกสุกรเพศเมีย ที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์ และทำให้ผู้ประกอบการรู้ได้ว่า สุกรสาวตัวนั้น พร้อมสำหรับการผสมพันธุ์หรือไม่ ช่วยในการวางแผนและบริหารจัดการต้นทุน และการดูแลฟาร์มได้เหมาะสม

ทั้งนี้ จากการนำชุดทดสอบหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร ไปใช้ตรวจจริงกับแม่สุกรที่ผ่านการผสมพันธุ์ ทั้งในฟาร์มสุกรในเมืองไทย และฟาร์มของกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรในประเทศสเปน พบว่าชุดตรวจมีความแม่นยำมากกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ ใกล้เคียงกับวิธีการทดสอบแบบ ELISA

ปัจจุบัน หลายบริษัทชั้นนำในธุรกิจฟาร์มสุกรยังได้นำชุดทดสอบนี้ไปใช้ในต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ ได้แก่ อเมริกา ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม สเปน ยูเครน ฟิลิปปินส์ อินโดนิเชีย เวียดนาม เกาหลี และจีน

ในอนาคต ทีมวิจัยอยากจะขยายการตรวจทดสอบลักษณะนี้ไปที่สัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก เช่น แกะ และ แพะ หรือแม้แต่สุนัขและแมว

หากสนใจ ติดต่อ ศูนย์พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล จุฬาฯ (QDD center) โทร. 02-218-5136, 02-218-5166 E-mail: qddcenter@gmail.com Website: https://cndc.tech/qdd

Exit mobile version