Site icon Mekha News (มีค่านิวส์) : เว็บไซต์ข่าว ที่จะนำเสนอข่าวสารเพื่อรักษาสิทธิให้กับคุณ

ลัทธิโยเร คือ

ลัทธิโยเร หรือ ลัทธิเซไกคีวเซ เป็นหนึ่งในศาสนาใหม่ของญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากการผสานความเชื่อของลัทธิชินโต ศาสนาพุทธนิกายมหายาน และหลักจริยธรรมสากล ก่อตั้งโดยโมกิจิ โอกาดะ เมื่อ พ.ศ. 2478 โดยมีความเชื่อ เรื่องการส่งพลังแสง (แสงทิพย์) ผ่านฝ่ามือสู่ร่างกาย เพื่อจุดประสงค์ในการรักษา ขจัดความเจ็บป่วย ความยากจน ความขัดแย้ง และชำระอาณาจักรแห่งจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์

ลัทธิโยเร เข้าสู่ประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยคาซูโอะ วากูกามิ ศาสนาจารย์คณะผู้เผยแผ่ มาตั้งรกรากในไทย โดยเริ่มการเผยแผ่คำสอนโดยการแปลเอกสารทางศาสนา และก่อตั้งโรงเรียนเกษตรกรรมในประเทศไทย จึงได้ทำการจดทะเบียนโดยใช้ชื่อว่า มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 มีสำนักงานใหญ่แห่งแรกอยู่ที่ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต่อมาใน พ.ศ. 2519 กรมการศาสนารับรองให้มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา เป็นองค์กรศาสนาย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายาน

ลัทธิโยเร เริ่มวางนโยบายเผยแผ่ศาสนาแก่ลูกหล่านเกษตรกรในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีการสร้างสถานปฏิบัติธรรมหรือโบสถ์ของลัทธิในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย สระบุรี และย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ซอยสีฟ้า ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร[ กระทั่ง พ.ศ. 2527 ถูกลดสถานะกลับเป็นมูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนาตามเดิม พวกเขามีกิจกรรมสนับสนุนทุนการศึกษาศาสนาพุทธแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นประจำทุกปี และการต่อต้านยาเสพติด รวมทั้งปรับปรุงวิธีการเผยแผ่ศาสนาด้วยการสนับสนุนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วัฒนธรรมไทย

ผู้ที่จะเข้ารีต ลัทธิโยเร จะต้องรับจี้ โอฮิการิ หรือที่เข้าเรียกว่า การรับพระ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ราคาไม่ทราบแน่ชัด แต่มีการขายในออนไลน์เริ่มต้นหลักร้อยบาท ไปจนถึงหลักพันบาท นอกจากนี้ ยังต้องคอยปฏิบัติศาสนกิจ เรียกว่า กิจกรรมพระ ได้แก่ การซัมไป (สักการะ) การโยเร และ การโฮชิ (บำเพ็ญประโยชน์) และต้องอบรมศาสนาราว 2-3 วัน จึงจะเข้าเป็นศาสนิกโดยสมบูรณ์ รวมทั้งต้องเผยแผ่ศาสนาเพื่อเพิ่มจำนวนศาสนิกชนให้มากขึ้น โดยมีคำสอนสำคัญแก่สมาชิก คือ ความสุภาพอ่อนโยน ความสงบเสงี่ยม และความสะอาด

ที่สำคัญที่สุด คือ การทำโยเร หลังการรับพระ พวกเขาจะบูชาเหรียญพระโยเร โดยกล่าวคาถาบูชาว่า “ขออำนาจพระศรีรัตนตรัยและท่านเมซึซามะ ขอให้คนข้างหน้าจงมีความสุข” หรือบ้างก็กล่าวว่า “ขออำนาจบารมี คุณพระศรีอริยเมตไตรย และท่านเมซึซามะ โปรดประทานแสงทิพย์ เพื่อชำระเมฆหมอกความขุ่นมัว” จากนั้นจะยกมือขึ้นระดับศีรษะ หันมือเข้าหาผู้รับแสง ยกค้างไว้ 10-15 นาที วันละครั้ง หรือสองครั้ง เพราะเชื่อว่าเป็นการรักษาโรคภัย

ขอบคุณข้อมูล วิกิพิเดีย

ขอบคุณภาพ มูลนิธิ คาซูโอะ-ซูรุ วาคุกามิ 

Exit mobile version