จักรภพ เพ็ญแข หรือ ดร.จักรภพ เพ็ญแข ชื่อเล่น เอก เกิดวันที่ 21 ตุลาคม 2510 ปัจจุบันอายุ 56 ปี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท, ปริญญาเอก ที่วิทยาลัยระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูงพอล เอช. นิทซ์ (SAIS) มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา
จักรภพ เพ็ญแข เริ่มทำงานที่เครือเจริญโภคภัณฑ์อยู่ระยะหนึ่ง แล้วลาออกไปเข้ารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ทูต กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ต่อมาลาออกมาทำงานสื่อมวลชนเต็มตัว โดยเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์หลายรายการ เป็นระยะเวลากว่าสิบปี ภายหลังเข้าสู่วงการเมือง ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ต่อมาไม่นาน จักรภพ เพ็ญแข ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือก ต่อมา จักรภพได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ 2 หลังจากคดียุบพรรคการเมืองปี 2549 จักรภพ พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี และองค์กรต่อต้านเผด็จการ เป็นแกนนำจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ท้องสนามหลวง ใช้ชื่อว่า นปก.
กระทั่ง จักรภพ เพ็ญแข โดนฟ้องร้องคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อเรื่อง “ระบบอุปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2550 ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (เอฟซีซีที) จักรภพ เพ็ญแข ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศ ในช่วง พ.ศ. 2552
เมื่อมีรัฐประหารในประเทศไทยปี 2557 จักรภพ เพ็ญแข คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้เขาไปรายงานตัว แต่เขาไม่ได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว และต่อมาถูกออกหมายจับ ข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง รวมถึงศาลอาญาได้ออกหมายจับ ข้อหา ร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ และเป็นอั้งยี่ แต่สุดท้าย จักรภพ เพ็ญแข เดินทางกลับเมืองไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567
ล่าสุด วันที่ 7 ก.พ. 68 จักรภพ เพ็ญแข ถือฤกษ์ดีควงนายสุไพรพล ช่วยชู คู่รัก มาจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรัก โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยาน โดยนายทักษิณได้อวยพรทั้งคู่พร้อมกล่าวถึงความสำเร็จของ ”สมรสเท่าเทียม“ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ขอบคุณภาพ จักรภพ เพ็ญแข – Jakrapob Penkair
ขอบคุณข้อมูล วิกิพิเดีย