คนไทยทำงานหนักไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะทุกวันนี้ หันไปทางไหน ก็เจอแต่คนทำงานวันละเกือบสิบชั่วโมง หลายคนก็ติดนิสัยพกงานไปทำวันหยุด จนแยกชีวิตทำงานกับการพักผ่อนไม่ออก ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจ Cities with the Overworked ปี 2564 ของ KSI จัดให้ กรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 3 ของเมืองคนทำงานหนักที่สุดในโลก
จากผลสำรวจดังกล่าว นับเป็นสถิติที่น่ากังวล เพราะคนที่ทำงานหนัก นานวันเข้าจะเริ่มคิดงานได้ไม่ทันใจ หรือไม่มีสมาธิเหมือนเดิม เป็นสัญญาณที่นำไปสู่ “ภาวะสมองล้า” อาการที่สมองทำงานหนักเกินไปจนกระทบการใช้ชีวิต และหากไม่รักษาอาจนำไปสู่โรคอันตรายมากมาย
นพ.กฤตวิทย์ รุ่งแจ้ง อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท ศูนย์สมองและระบบประสาท รพ.วิมุต เปิดเผยถึง ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome) คือ ภาวะที่สมองทำงานหนักเกินไปจนทำให้สารสื่อประสาทไม่สมดุล ทำให้เซลล์ประสาทเชื่อมต่อกันได้ช้ากว่าปกติจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เครียดสะสม ขาดการออกกำลังกาย
อาการของ “ภาวะสมองล้า” คือ การจดจ่อกับอะไรนาน ๆ ไม่ได้ หรือทำงานอะไรก็ผิดพลาดเล็กน้อยอยู่บ่อยครั้ง แม้จะเป็นงานที่ทำอยู่ทุกวัน ในบางคนอาจมีปัญหาในเรื่องความจำระยะสั้น ทำให้เกิดอาการหลงลืมชั่วคราว แม้ว่าอาการของภาวะสมองล้า อาจไม่รุนแรงถึงชีวิต แต่หากไม่รักษา อาจทำให้เกิดอาการหรือโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น
1.อาการปวดศีรษะเรื้อรัง
2.การนอนไม่หลับ ที่นำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง และโรคเส้นเลือดในสมองแตก
วิธีป้องกันและรักษา “ภาวะสมองล้า” แนะนำให้ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนี้
1.การจัดการความเครียด โดยหากิจกรรมผ่อนคลายที่ชอบ อาจเป็นการทำสมาธิ ดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ
2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้การไหลเวียนเลือดในสมองดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสมองล้า
3.พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง และไม่เข้านอนดึกเกินไป เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายรวมถึงสมอง
4.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง เช่น ปลา ธัญพืช ผักหลากสี อาหารที่มีแร่ธาตุ
5.ลดการดื่มสุราและการสูบบุหรี่
ผู้ที่สนใจปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต สามารถติดต่อได้ที่ชั้น 6 ศูนย์สมองและระบบประสาท หรือโทรนัดหมายที่หมายเลข 02-079-0068 เวลา 09.00-20.00 น. หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน ViMUT App คลิก >> https://bit.ly/372qexX