อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) บริษัทให้บริการด้านสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยชั้นนำของโลก นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากรายงานประเมินแนวโน้มความเสี่ยง ประจำปี 2567 (The Risk Outlook 2024) ชี้ให้เห็น ภาวะหมดไฟ ของพนักงานที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นปัญหาที่สำคัญ สามารถจำแนกได้จากความรู้สึกเหนื่อยล้าทางอารมณ์และประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะหมดไฟเพิ่มขึ้น ตลอดจนเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ ดังนั้น นายจ้างจึงจำเป็นต้องหันมาจัดการกับภาวะวิกฤตแบบเชิงรุกแทนที่จะจัดการแบบเชิงรับ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดผลกระทบเชิงลบจากทั้งภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตและภาวะหมดไฟภายในที่ทำงาน
How To แก้ ภาวะหมดไฟ
1.ส่องสัญญาณภาวะหมดไฟ : จัดให้มีการพูดคุยกับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินสุขภาวะและค้นหาสัญญาณเริ่มต้นของภาวะหมดไฟในการทำงานตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงฝึกอบรมผู้จัดการให้สามารถแยกแยะสัญญาณของภาวะหมดไฟ ตลอดจนจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการสนับสนุนทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2.ใช้มาตรการเชิงรุก : ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อจัดการกับภาวะหมดไฟด้วยโครงการที่ช่วยสนับสนุนด้านสุขภาพจิต ซึ่งรวมถึงบริการให้คำปรึกษา หรือโครงการช่วยเหลือพนักงาน
3.ส่งเสริมความยืดหยุ่นในองค์กร : เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานสามารถรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว พร้อมทั้งจัดหาสิ่งสนับสนุนที่จำเป็นให้กับพนักงานที่ต้องการความช่วยเหลือ
4.วางแผนกลยุทธ์ : จัดทำแผนการจัดการภาวะวิกฤตอย่างครอบคลุม ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ไขปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดโดยเฉพาะ รวมถึงกำหนดมาตรการในการจัดสรรงานในช่วงที่มีความกดดันสูง และจัดตั้งกลไกเพื่อเฝ้าติดตามและดูแลสุขภาวะของพนักงาน
5.ผนึกกำลังร่วมมือกัน : สนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกกับองค์กร เพื่อนำความรู้ความชำนาญเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้รับมือกับความเครียดและเสริมสร้างสุขภาวะของพนักงาน