หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น และภาคการเงินไทย ล่าสุด ทั้งสองธนาคารได้ออกมาชี้แจง มีค่า นิวส์ สรุปมาให้
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (TTB) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ได้มีรายงานข่าว ณ วันที่ 21 มีนาคม 25668 เกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นั้น ทีเอ็มบีธนชาตขอเรียนชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารไม่ได้อยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการตามที่ปรากฏในสื่อ รวมทั้งไม่มีแผนการควบรวมกิจการกับธนาคารอื่นอยู่ในแผนงาน 5 ปีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นพันธกิจสำคัญคือ การ Make REAL Change หรือการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารกว่า 10 ล้านคน มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านกลยุทธ์การสร้างการเติบโตแบบ Ecosystem Play และการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและสอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) อีกทั้งยังเดินหน้า Transform องค์กรอย่างรอบด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กกรและสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน
ด้านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTB) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) นั้น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคาร) ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และในขณะนี้ คณะกรรมการธนาคารไม่ได้มีดำริ หรือได้มอบหมายฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการตามที่เป็นข่าว
ธนาคารขอยืนยันว่า คณะกรรมการธนาคาร และฝ่ายบริหารยังคงขับเคลื่อนองค์กรภายใต้วิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตของประเทศไทย คนไทย และธุรกิจไทยอย่างครอบคลุมและทั่วถึงผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร และการเชื่อมโยงระบบนิเวศทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งพิจารณาโอกาสในการขยายการเติบโตในหลากหลายรูปแบบ ทั้งในส่วนของธนาคาร และบริษัทในกลุ่มธนาคาร เพื่อมุ่งสร้างและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคาร ภายใต้แนวคิด Corporate Value Creation (เสริมทักษะ สร้างคุณค่า สู่อนาคต) ซึ่ง ธนาคารได้สื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง
