ภายหลังการประชุม ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบ VDO Conference ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน แล้วเสร็จ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุที่ประชุม มีมติปรับระดับพื้นที่ จากเดิมพื้นที่ ควบคุมสูงสูด หรือ สีแดง เป็น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ สีแดงเข้ม เนื่องจาก เนื่องจากมีการะบาดในชุมชน มีผู้ป่วยมากกว่า 100 รายต่อวัน ใน 1 สัปดาห์ ส่วนพื้นที่พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ สีแดง มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 10 รายต่อวันใน 1 สัปดาห์ รวมถึงมีจังหวัดพื้นที่ที่ติดกับพื้นที่แพร่ระบาดอย่างน้อยมากกว่า 1 จังหวัด และจังหวัดที่ติดกับชายแดน และเคยมีผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ามา ที่ประชุมเห็นชอบยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 โดยกำหนด
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สีแดงเข้ม มี 6 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เชียงใหม่ และชลบุรี
โดยห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน โดยมีมาตรการดังนี้
- ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหะสถาน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
- ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะ ของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา
- สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดให้บริการ ยกเว้น สถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ประเภทกลางแจ้งหรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม สำหรับการแข่งขันกีฬาที่เคยได้รับอนุญาต จากนายกรัฐมนตรีให้จัดการแข่งขันได้ เมื่อได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการ กาหนดแล้วให้สามารถจัดการแข่งขันได้ต่อไป
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ที่งดการให้บริการ
- ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ใน เวลา 04.00 นาฬิกา
- การงดการเดินทางออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดงดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อลดการเดินทางที่อาจเสี่ยงต่อการติดโรค
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดง มีจำนวน 45 จังหวัด จากเดิม 18 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจบุรี กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ เชียงราย ตาก ตรัง นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน ประจวบคีรีขันธุ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี อยุธยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ภูเก็ต มหาสารคาม ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน ศรีสะเกษ สระแก้ว สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี
โดยมีมาตรการ ดังนี้
- ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหะสถาน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
- ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คน
- การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 นาฬิกา ในลักษณะของการนาไปบริโภคที่อื่น
- ห้ามการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในร้านอาหาร และสถานที่จำหน่ายสุรา
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มี ลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา โดย ให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ที่งดการให้บริการ
- ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิด ดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา สำหรับร้านหรือสถานที่ ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอด24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 นาฬิกา
- สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกาลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา และสามารถจัดการจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจากัดจำนวนผู้ชมในสนาม
- ให้มีการต้ังจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็น และเหมาะสมของแต่ละพื้นตามมาตรการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกิน สมควรแก่เหตุ
- ให้กระทรวงคมนาคมหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแล การให้บริการขนส่งผู้โดยสารที่เป็นการขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยต้องมีการจัดระบบ และระเบียบต่างๆ เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและแนวปฏิบัติตามพื้นที่สถานการณ์ ที่ ศปก.ศบค. กำหนด
3. พื้นที่ควบคุม สีส้ม จังหวัด รวม 26 จังหวัด จากเดิม 59 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กาฬสินธุ์ ชัยนาท ชุมพร นครนายก นครพนม หนองคาย บึงกาฬ บุรีรัมย์ พังงา พะเยา แพร่ มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร เลย สกลนคร สตูล สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ โดยมีมาตรการดังนี้
- ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหะสถาน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
- ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจานวนรวมกันมากกว่า 50 คน
- การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้การบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและการบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 นาฬิกา
- การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่ จำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มี ลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก ที่งดการให้บริการ
- การตั้งจุดสกัดหรือจุดคัดกรอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเท่าที่จำเป็น และเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
- ให้กระทรวงคมนาคมหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแลการให้บริการ ขนส่งผู้โดยสารที่เป็นการขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยต้องมีการจัดระบบและระเบียบต่างๆ เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและแนวปฏิบัติตามพื้นที่สถานการณ์ที่ ศปก.ศบค. กำหนด
โดยมาตรการทั้งหมดนี้ จะกำหนดใช้ในวันที่ 1 พ.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม ในทุกพื้นที่ และทุกจังหวัดยังคงงดจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ หรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ ยกเว้นจัดพิธีตามประเพณี หรือเป็นกิจกรรมที่อยู่ในครอบครัว โดยมีมาตรการป้องกัน และให้จังหวัดกำหนดพื้นที่ย่อยให้เข้มกว่า ศบค.กำหนดได้ ตามสถานการณ์ของจังหวัด และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณาดำเนินการทำงานที่บ้าน หรือ WHF มาตรการขั้นสูงสุดอย่างน้อย 14 วันเพื่อลดการรวมกลุ่มของบุคคลอันจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะลดการแพทยเชื้อได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยวัคซีนล็อตหลักจะทยอยเข้ามาในประเทศ ปลายเดือนพฤษภาคม โดยจะฉีดให้ประชาชนในประเทศ 50 ล้านคน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และคาดว่าจะได้รับการฉีดเข้มสอง อย่างครบถ้วนปลายปี 2564
ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค.ให้กลับไปใช้มาตรการเดิมในการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 14 วัน และไม่อนุญาตให้ออกนอกที่พัก และให้มีการตรวจหาเชื้อถึง 3 ครั้ง
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 ในการระบาดของเดือนเมษายนนี้ ข้อมูลถึง 25 เมษายน พบว่าอันดับ 1 9,177 รายหรือร้อยละ 44.3 สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายกก่อนหน้านี้ โดยอันดับ 2 จากสถานบันเทิง 5,226 รายหรือร้อยละ 25.2
อัพเดทวันที่ 29 เมษายน 2564